คนพัทลุงหนีน้ำกางเต็นท์นอนบนถนน

พัทลุงน้ำท่วมสูงชาวบ้านอพยพกางเต็นท์นอนบนถนน ที่สุราษฎร์ฯน้ำป่าถล่มกว่า 100 ครัวเรือนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ยังไม่คลี่คลาย ระดับน้ำที่ท่วมสูงต่อเนื่อง บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเพิ่มระดับและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศให้พื้นที่ 11 อำเภอของ จ.พัทลุง เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้วอย่างเป็นทางการ 

ขณะที่ชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 5 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน และ ต.นาปะขอ ต.จองถนน อ.บางแก้ว กว่า 150 ครอบครัวต้องอพยพทั้งรถ ทั้งคน และสัตว์เลี้ยง มาอาศัยกางเต็นท์ใช้ชีวิตประจำวันบนถนน เนื่องจากบ้านมีน้ำท่วมสูง จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ โดยชาวบ้านระบุว่าถูกน้ำท่วมบ้านมานาน 2 วัน 2 คืน กระแสน้ำเชี่ยว และไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลงแต่กลับทรงตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงไม่กล้าอาศัยอยู่ในบ้าน เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย ในขณะที่ทางเทศบาลตำบลเขาชัยสนเร่งแจกจ่ายกระสอบทรายจำนวน 5,000 ใบ แก่ชาวบ้านในเขตเทศบาล หลังปริมาณน้ำเอ่อล้นสายคลองใน อ.เขาชัยสน เข้าท่วมในเขตเทศบาล ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ

ที่จ.สุราษฎร์ธานี น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลหลากถล่มซ้ำรอบ 2 พื้นที่ต.ปากหมาก อ.ไชยา  เป็นเหตุให้ถนน สะพานขาดราษฎรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงกว่า 100 ครัวเรือน ส่วนน้ำท่วมในเขตเทศบาลตำบลไชยา ระดับน้ำยังคงทรงตัว ทางการเร่งประกาศให้ประชาชนในอ.ไชยาเตรียมรับน้ำป่าระลอก 2 ที่จะไหลลงมาสมทบในวันนี้

ที่จ.นครศรีธรรมราช เกิดรอยเลื่อน และแผ่นดินทรุดตัวที่หมู่ที่ 10 ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง โดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งเป็นพื้นที่สวนยางพาราของนางอรวรรณ แจ่มจรัส  และสวนผลไม้ของนายชำนาญ สมแสง กินบริเวณวงกว้าง ราว 10 ไร่ และมีทีท่าว่าจะขยายออกไปอีก โดยมีหลุมขนาดเล็กขนาดเท่าบ่อน้ำ ประมาณ 10 หลุม และหลุมใหญ่ กว้างประมาณ 2 ไร่ ลึก ประมาณ 60 เมตร มีร่องรอยต้นไม้ ต้นยางพารา จมหายไปใต้ดินนับสิบต้น

ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุเคยเป็นลำธารน้ำไหลผ่านลงมาจากภูเขาศูนย์ เป็นแหล่งแร่ดีบุกสมัยก่อน มาตอนนี้น้ำที่ไหลมาได้ไหลหายไปในหลุมยุบดังกล่าว หายไปใต้พื้นดินโดยไม่ทราบว่าไปออกที่ใด และยังมีรอยเลื่อน รอยยุบของแผ่นดิน ขยายออกไปเรื่อย จนชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงผวาไม่กล้าออกมา ทำกิน หรือกรีดยางกันแล้ว เกรงว่าขณะกำลังเดินๆ จะจมหายไปใต้พื้นดิน เพราะไม่มั่นใจได้ว่าตรงไหนจะปลอดภัย ผู้ใหญ่บ้าน ขอวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาตรวจสอบด่วนถึงสาเหตุ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ก่อนเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นกับชาวบ้าน

ที่จ.นราธิวาส ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เอ่อล้นจากตลิ่งแล้วกว่า 1.4 เมตร ทำให้น้ำเข้าท่วมในพื้นที่ของชุมชนหัวสะพาน เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนจำนวน 21 ครอบครัว รวม 121 คน ไปยังศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 อีกทั้งในพื้นที่ของ ต.ปาเสมัส ต.มูโน๊ะ และ ต.ปูโยะ ยังมีระดับเข้าท่วมพื้นที่ และบ้านเรือนของประชาชนอีก 6 ชุมชน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการอพยพแต่อย่างใด

ส่วนที่จ.ปัตตานี  เมื่อกลางดึกวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมามีฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืน และมีน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมหมู่ที่ 2 บ้านบาลาดูวอ ต.บางปู อ.ยะหริ่ง  ชาวบ้านต่างพากันขนข้าวของและเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูงเพื่อหนีน้ำอย่างจ้าละหวั่น ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างวิตกว่าจะเกิดน้ำท่วมเหมือนครั้งที่มีพายุดีเปรสชั่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จึงได้เฝ้าติดตามดูสถานการณ์น้ำตลอดทั้งคืน