posttoday

คนสามโคกต้านทหารปิดกั้นคันน้ำ

12 ตุลาคม 2554

ชาวสามโคกปิดถนนประท้วงไม่พอใจที่ทหารนำกระสอบทรายมากั้นน้ำจากต.กระแชงไหลผ่านเข้าเขตอ.เมืองและอ.ลาดหลุมแก้ว

ชาวสามโคกปิดถนนประท้วงไม่พอใจที่ทหารนำกระสอบทรายมากั้นน้ำจากต.กระแชงไหลผ่านเข้าเขตอ.เมืองและอ.ลาดหลุมแก้ว

ชาวบ้านจากหมู่บ้านกฤษณา และ หมู่บ้านเบญจพร ม.2 ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี กว่า 2,000 คนปิดถนนเส้นปทุมธานี-สามโคก ทั้งขาเข้า และขาออก เป็นเหตุให้รถยนต์ไม่สามารถที่จะผ่านไปได้ เนื่องจากไม่พอใจที่ทราบข่าวจากกำนันในพื้นที่ ว่าทางจังหวัดฯ ได้มีคำสั่งให้ทหารนำกระสอบทรายมาปิดกั้นบริเวณเส้นทางถนนปทุมธานี-สามโคก (สี่แยกสันติสุข) เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจาก ต.กระแชง ไหลผ่านมาเข้าในเขต อ.เมือง และ อ.ลาดหลุมแก้ว จึงทำให้ชาวบ้าน ไม่พอใจพร้อมกับจะปิดถนนจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจ

นอกจากนี้ที่สำคัญจะให้ชาวบ้านต้องจมน้ำ แต่ไม่มีการมาบอกกล่าวให้นานกว่านี้อย่างน้อยจะได้เตรียมตัวทัน ดังนั้นจึงเห็นชาวบ้านไม่มีความทุกข์ร้อนหรืออย่างไร ซึ่งในระหว่างกลุ่มชาวบ้านมาประท้วง พ.ต.อ.สมหมาย นาคสีหมอก ผกก.สภ.สามโคก และ พ.ต.ท.พีรธรรม ธรรมธีรดิลก รอง ผกก.(ป.) พร้อมกำลังคอยดูแลความสงบเรียบร้อย

ขณะเดียวกันชาวบ้านที่รวมตัวประท้วงเรียกร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้เข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน เนื่องจากคันกั้นน้ำที่แตกชำรุดปล่อยให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมหลายจุดพร้อมขู่ ว่าหากผู้ว่าฯไม่ออกมาพบชาวบ้านจะรวมตัวไปรื้อคันดินในจุดอื่นๆ

หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 2 ชม.ได้มีนายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มชาวบ้านว่า ทางการจะไม่มีการปิดกั้นทางน้ำที่กำลังจะไหลเข้าในเขตพื้นที่ ต.กระแชง โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ที่มีลำคลองไหลผ่าน และจะประสานกับนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดฯและผู้เกี่ยวข้องให้เร่งรัดป้องกันเสริมแนวกั้นน้ำที่พังมาแต่ละจุดอีกด้วย หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านจึงพอใจและแยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน จังหวัดปทุมธานี ก้ได้มีการประกาศให้เคลื่อนย้ายอพยพ ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ย่านวัดสะแก วัดตำหนัก และ วัดป่าฝ้าย ต.สามโคก อ.สามโคก เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะท่วมฉับพลัน โดยให้มาอาศัยที่อาคารปทุมรักษ์ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี อีกด้วย