ญาติคนตายจากเหตุต้มมาม่าเกรงคดีเงียบ หลังทราบผู้ก่อเหตุมีแบ็คเป็นตำรวจใหญ่

เพจดังเผย ญาติผู้ตายจากเหตุถูกรุมทำร้ายด้วยเรื่องต้มมาม่าเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังทราบว่าฝ่ายผู้ก่อเหตุมีแบ็คเป็นนายตำรวจใหญ่

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เพจเฟซบุ๊ก “Social Hunter” เปิดเผยความคืบหน้า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว สามารถควบคุมตัว 4 ผู้ก่อเหตุ คือ นายสุชาติ อายุ 50 ปี น.ส.มนทรา อายุ 48 ปี นายสุรสีห์ อายุ 24 ปี และ น.ส.ศศินา อายุ 20 ปี ที่ใช้อาวุธมีดและไม้เบสบอลรุมทำร้าย นายสมชาย อายุ 47 ปี จนเสียชีวิต โดยมีสาเหตุมาจาก กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่พอใจ น้องชายผู้เสียชีวิต ที่ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรับประทานแล้วทำให้ควันลอยข้ามเข้าไปบ้านผู้ก่อเหตุนั้น

เพจดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ 2 ใน 4 กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว วงเงินคนละ 5 แสนบาท ซึ่งทางฝ่ายเพื่อนสนิทผู้ตายบอกว่า คนร้ายมีแบ็คหลังเป็นตำรวจใหญ่ และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ฝ่ายผู้เสียหายเกรงว่า เรื่องคดีความอาจเงียบ ผู้ก่อเหตุไม่ถูกลงโทษและญาติผู้เสียชีวิต อาจไม่รับความปลอดภัยและเป็นธรรม

“ขออนุญาตอัพเดท คดีรุมฆ่า รปภ. วันนี้เราไปงานศพพี่หนุ่ม (ผู้ตาย) ที่โดนรุมทำร้ายเพราะเรื่องต้มมาม่า ตามที่ได้ฟังจากปากของเพื่อนสนิท เขาเล่าให้ฟังว่าที่จริง 2 ครอบครัวนี้ ทะเลาะกันบ่อยอยู่แล้ว ตามที่มีคนเคยเขียนลงไป แต่ผู้ตายไม่เคยไปทำร้ายร่างกายอีกฝั่งจนเลือดตกยางออก

ตอนนี้ผู้หญิงสองคนในคลิปรุมทำร้าย ได้ประกันตัวออกแล้วคนละ 500,000 บาท เพื่อนสนิทผู้ตายบอกว่า ฝั่งคนร้ายมีแบ็คหลังเป็นตำรวจใหญ่ ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น กลัวว่าเรื่องนี้จะเงียบไปโดยไม่มีการลงโทษและชดเชยใดๆ สงสารลูกและน้องชายของผู้ตาย ถ้าคนร้ายหลุดออกมาจริง น้องชายผู้ตายจะมีอันตรายอะไรรึป่าว เราไม่รู้ว่า ตำรวจหรือศาลมีเหตุผลใดจึงให้ประกันตัวคนร้าย ถ้าเรื่องนี้เงียบไปการดำเนินคดีจะยุติธรรมรึป่าว” เพจดังกล่าว ระบุ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ย. โดยผู้ตายถูกครอบครัวผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดฟัน-และแทงหลังจากไม่พอใจ น้องชายผู้เสียชีวิตที่ได้ต้มมาม่าหน้าบ้าน (ใช้เตาถ่าน) และควันได้ลอยเข้าไปภายในบ้านของคู่กรณี จากนั้นก็มีปากเสียงกัน ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ที่มาภาพ Chonyuen Wisutthipat