ทหารแจงคลิปยันไม่ได้เรียกเงินแท็กซี่ แต่ให้ไปเสียค่าปรับเพราะจอดในที่ห้าม
ทบ.แจง ทหาร ไม่ได้ เรียกเงินแกร็บ แท็กซี่ 5,000บาท แต่ให้ไปชำระค่าปรับเพราะจอดในที่ห้าม หลังมีผู้โพสต์คลิป พร้อมเชิญคนขับเข้าพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว
ทบ.แจง ทหาร ไม่ได้ เรียกเงินแกร็บ แท็กซี่ 5,000บาท แต่ให้ไปชำระค่าปรับเพราะจอดในที่ห้าม หลังมีผู้โพสต์คลิป พร้อมเชิญคนขับเข้าพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ชี้แจงกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปเจ้าหน้าที่ทหารขึ้นรถแท็กซี่ แกร็บแท็กซี่ และพยายามร้องขอให้คนขับไปเสียค่าปรับกับเจ้าพนักงานขนส่ง และตำรวจ เนื่องจากการจอดรถในที่ห้ามจอด ที่หน้าห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต แต่ถูกสังคมเข้าใจผิดว่าเรียกรับเงิน 5พันบาท
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในคลิป พยายามร้องขอให้คนขับรถ ไปเสียค่าปรับ ที่ป้อมของตำรวจและเจ้าหน้าที่ขนส่ง ที่อยู่ใกล้ๆกัน ห่างไม่เกิน 100 เมตร เนื่องจากรถคันดังกล่าวมีการมาจอดรถรับผู้โดยสารในที่ห้ามจอด โดยเฉพาะมาจอดกีดขวางการจราจร เนื่องจากบริเวณจุดดังกล่าวมีคนร้องเรื่องการจอดรถไม่เป็นระเบียบอยู่เป็นประจำ
"ขณะนี้ทางหน่วยได้มีการสอบสวนเหตุการณ์ทันที ตามแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาเคยให้ไว้ ซึ่งผลที่ได้มีรายละเอียดข้อมูลใกล้เคียงกับที่เห็นในคลิป คือทหารคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในกำลังพลที่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในการจัดระเบียบเรื่องการใช้ถนนสาธารณะร่วมกับ ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ขนส่ง เมื่อพบผู้กระทำฝ่าฝืนวินัยจราจรก็จะเข้านั่งประกบเลย เพราะกลัวขับรถหนีไปอีกเหมือนอีกหลายคันก่อนหน้านี้ ที่ไม่อยากถูกเสียค่าปรับ"พ.อ.วินธัยกล่าว
พ.อ.วินธัยกล่าวอีกว่า ยืนยันว่า ทั้งในคลิป และ ผลการสอบสวน ไม่พบกำลังพลพยายามการเรียกเงิน 5,000 บาท จากคนขับแท็กซี่ เหมือนที่ผู้โพสต์คลิปได้เขียนเอาไว้
"ที่ผ่านมากรณีถ้าพบเจ้าหน้าที่ประพฤติไม่เรียบร้อยจริง มีลักษณะการเสียวินัยอย่างใดอย่างหนึ่งจะต้องถูกดำเนินการไปตามระเบียบอย่างแน่นอน แต่ จากคลิปดังกล่าวน่าจะเป็นการสื่อสารที่บิดเบือนไป จึงอยากให้ผู้ชมได้ใช้วิจารณญาณ ส่วนผู้นำเสนอข้อมูลควรใช้ความระมัดระวังต่อการนำเสนอข้อมูลผ่านโลกโซเชียล ที่ควรอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง"พ.อ.วินธัยกล่าว
ด้าน พ.ท.กฤษณพล โภชดา ผบ.ป.พัน 12รอ. ชี้แจงว่าได้เชิญผู้ขับแท๊กซี่มาสนทนาทำความเข้าใจที่บริเวณ ที่ว่าการอำเภอธัญบุรี โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬา ปลัดอำเภอ และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังสรุปได้ว่า
1. ผู้ขับแท๊กซี่นัดหมายรับผู้โดยสาย แต่หาผู้โดยสารไม่พบ จึงขับออกไปจากจุดรับ และมาพบอีกครั้งจึงจอดรับ ณ จุดห้ามจอด ทำให เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาจับกุม และ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรต่อไป ซึ่งผู้ขับขี่รถแท๊กซี่ยอมรับว่าไม่ถูกต้องจริงๆ
2. ผู้ขับขี่ขับแท๊กซี่เข้าใจดีแล้วว่า ทหารมิได้เรียกรับเงิน 5,000 แต่แจ้งว่า วันนี้ดำเนินการต่อผู้ที่ผิดเช่นนี้มา 5 คันแล้ว เพราะในคลิปทหารพูดอย่างชัดเจน
3. เรื่องที่ทหารปัดข้อมือผู้ขับขี่รถแท๊กซี่ ทหารได้ขอโทษและแท๊กซี่ไม่ติดใจเอาความ
4. ได้โทรไปหาผู้โดยสาร ขอให้ลบคลิปออกเพราะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน
5. ประเด็นการที่ใช้ แกร็บ แท็กซี่สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่จะต้องนัดรับผู้โดยสารกัน ณ พื้นที่ที่สามารถจอดรับได้ มิเช่นนั้นจะผิดในเรื่องกีดขวางการจราจร