เป็นเจ้าของกิจการเพราะนั่งกินเหล้าตอนตกงาน ‘กูจองโต๊ะเอง’ เพจรับจ้องโต๊ะของคนชอบปาร์ตี้

เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล  

ภาพ : ปัณณธร แจ้งประโคน,ณัฐพล โลวะกิจ

เพื่อนไปจองโต๊ะหน่อย! เรียกได้ว่าแทบทุกกลุ่มปาร์ตี้มักจะต้องมีผู้เสียสละเดิมๆ ซ้ำๆ ออกไปเป็นทัพหน้าและรอคอยนานนับชั่วโมงอย่างปฎิเสธไม่ได้ด้วยเหตุผลบ้านใกล้บ้าง เลิกงานไวสุดบ้าง จนบางครั้งหมดความสนุกและกลายเป็นความเบื่อหน่าย ความระอา ไปดื้อๆ

3 สาว “เบล-จุรีภรณ์ ผดุงแดน” กับ “มิ่ง-โฉมสุดา ดำรงค์พานิชย์” และ “เมย์-พรรณวรรต ปัชชา” จึงปิ๊งไอเดียกู้ความเป็นธรรมและมั่นคงในความสนุกว่าจะมีโต๊ะให้ผ่อนคลายด้วยการรับเป็นผู้จองโต๊ะเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเพียงระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เพจ “กูรับจองโต๊ะ” ได้มีลูกค้าจ้างวานแบบถล่มทลายกว่า 50 ยอดจอง ก่อนที่คิวจะเต็มยาวคนแห่จองจนเต็มทั้งเดือน

“กูรับจองโต๊ะ” เกิดขึ้นได้อย่างไรและอะไรทำให้ “กูรับจองโต๊ะ” เป็นที่นิมยม บรรทัดถัดไปนี้คือคำตอบที่คนในสายปาร์ตี้ต้องรู้ คนนอกสายต้องยิ่งรู้เพื่อเอาไปสร้างไอเดียทำเงิน

มองปัญหาออก ‘เงิน’ ก็งอกตามมา

อาจจะไม่เชื่อเรื่องราวใหม่ที่เกิดขึ้นสำหรับมือปืนรับจ้างจองโต๊ะร้านอาหารหรือสถานบันเทิง หากแต่ครั้งนี้เกิดไม่ใช่คนๆ เดียวที่รับเป็นจ๊อบ ไอเดียดังกล่าวได้ถูกต่อยอดกลายเป็นธุรกิจเป็นล่ำเป็นสัน มีมาตรฐาน เป็นเจ้าแรกของเมืองไทยในการให้บริการรับจ้องโต๊ะที่อย่างมืออาชีพการันตรีจ้องแล้วได้โต๊ะไม่มีผิดไม่มีพลาดปาร์ตี้    

“วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 เราชวนกันไปนั่งคุยที่ร้านท่าช้างข้าวสาร แต่ไม่ได้ได้โต๊ะ ร้านท่าช้างคนไปจองกันตั้งแต่เที่ยงบ่ายซึ้งตอนก่อนทำเราไม่รู้ ซึ่งปกติเราก็จะมีเพื่อนคนหนึ่งที่ไปเองตลอดเพราะงานเลิกไว แต่วันนั้นไปแล้วโต๊ะเต็ม เราก็ตามประสาบ่นกันพึมพำแนวประชด (หัวเราะ) ถ้ามีใครจองแทนเราก็พร้อมจ่าย แต่มันไม่มีใครไง จังหวะนั้นเลยปิ๊งไอเดียแล้วถ้าเราทำรับจ้องกัน งานก็ว่างเพราะโควิด เรามาทำรับจ้องกันดีไหม จะได้มีรายได้วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์”

จากปัญหาโลกแตกของนักเที่ยวที่ไม่ว่ามุมไหนที่จะให้ตกจุดนี้มันก็ดูจะไม่เวิร์คพอดี ทั้งการสลับเปลี่ยนกันมาจ้องของคนในกลุ่มเพื่อน การมอบหมายหน้าที่ให้คนใกล้พื้นที่ การออกเงินให้มากกว่าคนมานั่งรอ ฯลฯ หมุดหมายของความหฤหรรษ์ในวงบันเทิงเพื่อผ่อนคลายคือทุกคนอยู่ด้วยกันจนจบแมตช์ชนแก้ว เบลบอกว่าเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอและเพื่อนๆ จึงระดมความคิดรันแผนธุรกิจขึ้นในทันทีโดยการตั้งชื่อไว้คราวๆ ว่า “กูรับจองโต๊ะ”

และเพียงระยะเวลา 3 ชั่วโมงที่เริ่มตั้งเพจช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ปรากฏว่าเที่ยงคืนมีคนทักเข้ามาว่าจ้างให้ไปจองโต๊ะ ยิ่งไปกว่านั้นพอตื่นเช้ามาราวๆ 10 โมงกว่าๆ คนเข้ามาให้ไปจองเกือบ 50 คน มีคนแชร์เพจของเราเป็นไวรัลอีก 1,000 กว่าแชร์ ส่งผลให้คิวเต็มในทันทีทั้งเดือนพฤศจิกายนที่เหลืออีกถึงกว่าครึ่งเดือน

“เราก็เอาแล้ว โทรหากันเลยคุยกันว่าคงต้องทำมันจริงจังแล้ว ก็รีบไปหารุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยคนไหนที่สนใจอยากหารายได้พิเศษจริงๆ เพราะว่าเราสร้างเพจขึ้นมามาจากใจเราที่เราอยากให้คนได้โต๊ะ เพราะธุรกิจมันคือชีวิต ไม่ได้คือตัด เราเลยไม่รับคนที่ทางเน็ตที่ติดต่อมาเยอะมากเนื่องจากกลัวบริการไม่เป๊ะ ไม่ชัวร์ เราเห็นแก่เงินไม่ได้แม้ว่ายอดคนจะสนใจวันนั้น 50 คน เงินหมื่นตรงหน้า แต่รับแค่ 4 โต๊ะ เท่านั้น

“วันเสาร์รุ่งขึ้นคิวจอง 100 กว่าคน ก็แก้ปัญหาแบบเดิมคือกระจายกันไปจองโต๊ะแล้วก็เข้าไปมหาวิทยาลัยหา ได้น้องๆ มาเพิ่มเป็น 15 คน เป็น 20 คนออกมาช่วยกันจองคิวเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเดือนนั้นทั้งเดือนจองเต็มทั้งเดือนหมด”

‘กล้าคิด กล้าทำ’ อะไรก็เกิดขึ้นได้

จากไอเดียที่เริ่มจากคิดกันเล่นๆ สนุกๆ รับจองแหล่งบันเทิงในย่านถนนข้าวสารซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้ที่พักของทุกๆ คน ก็เริ่มที่จะเป็นรูปแบบธุรกิจมากขึ้นอย่างมืออาชีพ มีการขยายรับบริการจองย่านสถานบันเทิงชั้นนำในกรุงเทพฯ อย่าง ทองหล่อ เอกมัย แล้วยังเพิ่มย่านร้านกินดื่มแถวเกษตร-นวมินทร์และถนนรัชดาขึ้นในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์อีกด้วย  

“ราชเทวี ปิ่นเกล้า ก็มีรับจอง ณ ตอนนี้” หัวเรือใหญ่ระบุก่อนจะเล่าต่อถึงการรับจองโต๊ะร้านเหล้าที่จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ของใหม่ มีคนเคยทำแต่เป็นในรูปแบบมือปืนรับจ้างเพียงเท่านั้น ไม่ใช่รูปแบบในธุรกิจที่พวกเธอกำลังทำให้เกิดขึ้นเป็นมาตรฐาน

“การรับจองโต๊ะมันก็มีคนเคยทำมาบ้างแล้ว แต่ที่เรากลายเป็นที่นิยมเร็วคงเพราะความกล้าได้กล้าเสีย กล้าที่จะลงมือทำ ถึงแม้ตอนแรกจะเริ่มจากเล่นๆ แต่พอเราเห็นโอกาสเราก็ทำเต็มที่ และเราเชื่อในเรื่องของการเปิดโอกาสให้ตัวเอง เพราะทุกคนเก่งหมด พอเรากล้าทำ เราเปิดโอกาสให้ตัวเอง เราก็พร้อมเจอกับปัญหาและแก้มันจนมันดี 

“ตัวอย่างที่เห็นภาพคืออย่างวันแรกเราไปจองแบบไม่รู้เลยว่าต้องไปกี่โมงถึงจะได้โต๊ะ (หัวเราะ) เราก็ตั้งแต่บ่าย ไปก็ต้องมีเงินสำรองค่าเปิดเครื่องดื่ม 3 พันแรงมากที่ทองหล่อเลยเราก็ไม่รู้อีกก็ต้องเตรียมให้พร้อม เราก็กลับมาแก้ปัญหากันว่าขั้นตอนมันจะต้องเป็นแบบไหนบ้าง ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อให้ลูกค้าได้โต๊ะแน่นอนไม่มีพลาด”

โดยราคาในการจองเริ่มต้นตั้งแต่ 400 บาท เป็นต้นไป ซึ่งจะมีรูปแบบขั้นตอนของการจองของเพจที่ทำขึ้นเพื่อให้เกิดมาตฐานการันตีความชัวร์ในการได้โต๊ะได้แก่

1.โอนเงินมัดจำจำนวน 400 บาท

2.แจ้งวันที่รับโต๊ะและลายละเอียด อาทิ ร้านที่จอง,ชื่อคนจ้อง,จำนวนโต๊ะ,เบอร์โทรติดต่อและไอดีไลน์

3.ทางเพจจะแจ้งจำนวนค่าเปิดเหล้าเพื่อให้ผู้ที่ทำการจองโต๊ะโอนค่าเหล้า

4.ลูกค้ามารับโต๊ะและชำระเงินที่เหลือได้ที่โต๊ะ

สร้างคณะจองโต๊ะเป็นอาชีพ

รายได้และยอดความนิยมที่เข้ามาอย่างเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันนี้ “กูจองโต๊ะเอง” ในการดำเนินงานของทั้งสามสาวพวกเธอได้ตั้งเป้าหมายต่อไปคือการสร้างให้เกิดอาชีพนี้เป็นธุรกิจที่มั่นคงให้ได้

“ถามว่าทิศทางในอนาคตการรับจองโต๊ะเราจะเป็นธุรกิจระดับไหน คือตอบได้เลยว่าไม่ได้ทำเล่นๆ แล้ว ไม่คิดว่ามันคืองานอดิเรกแล้ว” สามสาวระบุทิศทางในอนาคตของอาชีพรับจ้องโต๊ะเหล้าซึ่งวางแผนกันไว้ว่าจะพัฒนาต่อยอดให้เป็นในรูปแบบโมเดลทางธุรกิจ

“จากที่ตอนแรกมันคือการคิดเล่นๆ ทำเล่นๆ คิดแค่ว่าไม่มีอาชีพทำ ทำสนุกๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เราก็คิดกันในทุกวันว่าเราจะทำงานนี้ให้เป็นในรูปแบบธุรกิจที่มั่นคงยังไง เราก็พยายามคิดพยายามปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาในตอนนี้

“ก็ฝากขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการเราสำหรับคนที่อยากสร้างอาชีพ อย่ามัวแต่รอโอกาสกับความพร้อม เราต้องสร้างโอกาสนั้นขึ้นมาเอง บางทีการคิดกันเล่นๆของเพื่อนในกลุ่มอาจจะ ทำให้ความคิดนั้นเป็นธุรกิจเล็กๆของเราได้อาจจะเป็นอาชีพเสริมเป็นรายได้เสริม อย่างที่เราคาดไม่ถึง สุดท้ายนี้ ฝากถึงทุกท่านที่อยากใช้บริการ "แต่งตัวเต็มได้ไม่ต้องรีบ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของกูจองโต๊ะเอง" ค่ะ”