ให้คนอื่นได้! ทำไมจะให้พนักงานไม่ได้ “รัฐนันท์ ลีเศรษฐเลิศ” บอสแห่งชาติแจกคอนโดฯ 15 หลังให้ลูกน้อง

เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล / ภาพ : อัศวิน ปิ่นใจ

ปีที่ผ่านมาๆ โบนัสของบริษัทบัญชี ‘แอ็คเค้าน์ แชนเนล’ จำกัด (มหาชน) เคยมีทั้งการแจกรถ 17 คัน ทุนเรียนปริญญาตรี-โท เงินทำศัลยกรรม เที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ จนกลายเป็นข่าวบนหน้าสื่อหนังสือพิมพ์

“รัฐนันท์ ลีเศรษฐเลิศ” คือประธานบริษัท เจ้าของแนวคิดของการแจกโบนัสดังที่กล่าวมาข้างต้น

แม้ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ จากไวรัสโควิด-19 ระบาดทั่วโลก แต่การ "ให้" แก่พนักงานของบอสใหญ่ผู้นี้กลับยิ่งใหญ่กว่าเดิม 

ล่าสุดเขาแจกคอนโดมิเนียมให้กับพนักงาน แถมยังช่วยวางแผนและเตรียมการเกษียณพร้อมทุนทรัพย์ให้กับพนักงานในระดับสูงถึงหลักล้านบาทต่อคนไปใช้ในชีวิตบั้นปลาย

โพสต์ทูเดย์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "รัฐนันท์ ลีเศรษฐเลิศ" และต่อไปนี้คือแนวคิดอันน่าสนใจของบอสใหญ่ที่ใช้ "ใจแลกใจ" กับลูกน้อง

เพราะเข้าใจหัวอกลูกจ้าง

“ก่อนตั้งบริษัทแอ็คเค้าน์ แชนเนล จำกัด (มหาชน) ผมก็เป็นลูกน้องมาก่อนหลังเรียนจบ ก็เลยเข้าใจใจของลูกน้อง ตั้งแต่ทำงานมาชอบนายจ้าง 2 คน คนหนึ่งให้อำนาจเต็มที่ อิสระในการทำงาน นิสัยดี อีกคนให้เกียรติ พ่อผมเสียตอนเป็นพนักงานตัวเล็กๆ ท่านมาเป็นประธานในงาน ผมก็เลยเอาสองส่วนนี้มาใช้พอเรามีบริษัท”

และเอามาผสมกับนิสัยส่วนตัวชอบให้เงินขอทานตั้งแต่เด็ก เวลาที่เย็นๆ เลิกเรียนมีเงินติดกระเป๋า 40 บาท กักไว้ 2 บาทค่ารถ ที่เหลือมอบให้ขอทานทั้งหมดทุกวัน จากกิจวัตรก็กลายเป็นนิสัยของรัฐนันท์เมื่อโตขึ้นเรียนชั้น ป.ตรีก็ไปเข้าวัดทำบุญ ถวายของ พอวัยทำงานวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ก็รักษาศีล 5 ศีล 8 เรื่อยๆ เพราะต้องการที่จะหาหนทางพระนิพพานในชีวิตที่ตัวเองตั้งไว้ ฉะนั้นเมื่อมีจึงง่ายที่จะตัดสินใจให้พนักงาน เพราะพนักงานคือบุคคลที่ใกล้ชิด เป็นมิตร เป็นพี่น้อง

“ให้คนอื่นได้ ทำไมให้พนักงานไม่ได้ เราเห็นเขาทำงานทุกวัน เรารู้ว่าวันไหนเขาคิดมาก เขามีปัญหา มองหน้าปั๊บรู้เลย เราก็คิดคอนเซ็ปบางทีเขาอาจจะทำงานไม่มีสมาธิเครียดเรื่องเงิน เรื่องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ไรพวกนี้ เราก็เลยคิดว่าให้เขาไปเลยดีกว่า เขาได้มีสมาธิจดจ่อกับการทำงาน เราก็ช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ไปเลย เวลาเขาได้เงินเดือนมาปุ๊บ ไม่ต้องผ่อนอะไรทั้งสิ้น  เค้าสบาย เค้ามีสมาธิจดจ่อกับการทำงาน

“การให้ของผมเรื่องทำงานดีไม่ดีไม่เกี่ยวนะ ใครอยากได้ติ๊กมาเลยก็แจกคอนโด ซึ่งจริงแจก 23 คนปีนี้ แต่อีก 8 คนเขาขอเป็นเงิน เพราะเค้ามีบ้านอยู่แล้ว ก็เอาเป็นคอนโดแค่ 15 ห้อง ใน 15 ห้องเนี่ยก็อยู่จริงๆ 13 ห้อง อีก 2 ห้องเนี่ยเขาปล่อยเช่า เขาก็เก็บเป็นเงิน ก่อนหน้านี้แจกรถ 17 คัน แจกมอเตอร์ไซค์  แจกทุนการศึกษาเรียนปริญญาตรี  ปริญญาโท อันนี้ให้ 7 ทุนและ แจกตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศ พาไปที่พักต่างจังหวัด บางคนก็แจกทําศัลยกรรมจมูก แล้วก็มีแจกทอง แจกไอโฟน  แจกธรรมะ พาพนักงานไปฟังเทศน์ พาพนักงานไปทำบุญอะไรอย่างนี้ประมาณนั้น”

เพราะทุกคนเท่าเทียม

“คำว่าฟันเฟืองเล็กๆ ผมชอบมาเลยเพราะคำพูดนี้ พูดบ่อยกับพนักงานมาก เพราะผมอยากให้พนักงานทุกคนมองว่ามีความสำคัญเท่ากันหมด สิทธิของความเป็นคนเท่ากัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น แม่บ้านเนี่ยเขาเหมือนกับว่า อาจจะเป็นหน้าที่ที่แบบดูไม่สำคัญเลยแต่ถ้าเขาไม่ทำงานสักหนึ่งวันเนี่ยบริษัทขยะเต็มไปหมดเลยเพราะพนักงานเป็น 100 กว่าคน อย่างแม่บ้านเราเองก็ส่งแม่บ้านไปเที่ยวต่างประเทศ ไปกับน้องๆ ก็ให้เขาได้เปิดหูเปิดตาให้เขามีความสุขตรงนั้น”

ไม่วัดคนที่เฉพาะเน้นหน้าที่ มองข้ามเรื่องความสำคัญจะต้องพนักงานระดับสูงๆ ถึงจะมีสิทธิ์เหนือกว่า หากแต่ใจอุตสาหะแม้พนักงานบริการขนส่งก็สามารถได้รางวัลจากบอสผู้นี้

“คนขับรถขนส่งก็ยังได้คอนโด พนักงานเก็บเงิน พนักงานบัญชี อะไรก๊อกๆ แก๊กๆ ก็ยังได้คอนโด มีพนักงานอยู่ท่านหนึ่งพูดติดอ่างและสุดท้ายคนนี้ทำงานดีก็ได้คอนโด และที่สำคัญในงานปีใหม่นี้ออกมาร้องเพลงอีกเพื่อนทุกคนทั้งออฟฟิศ 100 กว่าคนเป็นใจช่วยร้องเพลงให้ เพราะเค้าร้องเพลงไม่ค่อยชัด พูดไม่ค่อยชัด เพื่อนทุกคนก็ช่วยร้องเพลงให้ คือเราปลูกฝัง ให้เขาเหมือนกับว่า รักกันนะ ไม่ได้แบบไปบูลลี่เค้าว่า เค้าพูดติดอ่างอะไรอย่างนี้ไม่ใช่ และเค้ากลับกลายเป็นพนักงานที่เป็นต้นแบบว่าทำงานดี รับผิดชอบดี

“ผมก็อยากให้คิดว่าสิทธิของความเป็นคนเท่ากัน ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นท่านประธานแล้วมันจะต้องสูงเหลือเกิน เท่ากัน ก็กินข้าวแกงเหมือนกันนะ แม่บ้านยกมือไหว้ ผมก็ยกมือไหว้กลับ รปภ.ยกมือไหว้ผม ผมยกมือไหว้กลับ เพราะฉะนั้นทุกคนเท่าเทียมกันในแง่ของความเป็นคน หรืออย่างเวลาประชุมก็จะให้ลูกน้องใกล้ตัวติอยู่เรื่อยๆ ประชุมแมตช์นี้พี่มีทำผิดตรงนี้ พี่รู้สึกไม่ค่อยดี พี่มีอะไรผิดไหม เค้าบางทีบอกพี่ทำถูกต้องแล้ว พี่ต้องเล่นบทบาทนี้แหละ บางทีพี่อันนี้พี่แรงไป เราก็รับฟัง พยายามฟังดูอีกทีว่ายังไง หรือบางทีถึงขั้นที่ว่าผมพลาดจริงๆ ก็จะเรียกลูกน้องมาอีกทีนึงพี่ขอโทษ พี่ว่าแรงไป ขอโทษลูกน้อง เป็นเรื่องปกติสำหรับผมเลยนะพอเราพูดขอโทษลูกน้องเสร็จปุ๊บลูกน้องก็ยกมือไหว้เรา  เราก็ยกมือไหว้ลูกน้องกลับอีกทีหนึ่ง คือต่างคนต่างขอโทษได้เพราะว่ามันเท่าเทียมกัน”

เพราะยิ่งสูงยิ่งต้องพยายาม

ในอนาคตแผนการของบริษัทแอ็คเค้าน์ แชนเนล จำกัด (มหาชน) ก็คงยังจะมุ่งหน้าแจกต่อไปเพื่อให้ความเป็นอยู่ทั้งชีวิตและจิตใจของพนักงานในบริษัทดีขึ้น โดยล่าสุดได้มีการวางแปลนเกษียณให้กับพนังานในบริษัทในระดับสูงถึงหลักล้านบาทไปใช้ในชีวิตปั้นปลายอีกด้วย

“บอสแห่งชาติเนี่ยก็เพิ่งได้ยิน (ยิ้ม) เพราะผมก็ไม่ได้ค่อยออกไปข้างนอก  อยู่แต่ในออฟฟิศ อยู่แต่ในถ้ำ แต่ที่ได้ยินอยู่เรื่อยๆก็ พี่ใจดี พี่ใจดีจัง อะไรอย่างนี้นะ ได้ยินอยู่เรื่อยๆ เดินๆอยู่ในออฟฟิศอย่างนี้นะ ก็อยากให้คิดว่า หวานเป็นลมขมเป็นยา เรายิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คนจะมาติเราน้อยลง คำหวานเนี่ยฟังได้แต่ก็วางไว้แค่นั้น เราต้องฟังคำติ เอาคำติมาปรับปรุงตัวเราเอง เวลาที่เราฟังคำติแล้ว เราต้องคิดต่อไปด้วยว่า มันจริงหรือเปล่า มันจริงมากหรือจริงน้อย แค่ไหนยังไง แล้วก็เอาตรงนี้เนี่ยมาปรับปรุงตัวเอง แล้วก็พยายยามอย่าให้มันเกิดขึ้นมาอีก

“ก็จะแจกต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตนอกจากแผนกองทุนเกษียณที่กำลังวางและลงมือทำ ก็จะแจกของต่อไปมีอะไรใหม่ๆ อีก ที่ทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ก็อย่างที่บอกทำบุญทำมากว่า 30 ล้าน ทำไมให้พนักงานไม่ได้ มันก็ง่ายๆ แค่นั้น ใจแลกใจถ้าสรุปสั้นๆ เข้าใจ เท่าเทียม ให้ใจ” บอสแห่งชาติกล่าวทิ้งท้าย