posttoday

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

28 กันยายน 2563

“สุนทรี ศรเจริญ” แม่ค้าใจดีแห่งซอยรามบุตรีย่านถนนข้าวสาร ยอมตรึงราคา 20 บาทไว้นับ 10 ๆ ปีไม่มีขึ้น เพื่อให้คนหาเช้ากินค่ำเข้ามาสู้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อิ่มท้องและมีแรงสู้ในวันใหม่

เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล

ภาพ : ณัฐพล โลวะกิจ,ปัณณธร แจ้งประโคน

โดยร้านป้าแมวข้าวแกง 20 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ บริเวณซอยรามบุตรีย่านถนนข้าวสาร 

ด้วยเมนูกว่า 20 อย่าง ทั้ง แกงเขียวหวาน แกงส้ม แกงพะโล้ ผัดวุ้นเส้น ฯลฯ จากวัตถุดิบแบบสดใหม่ส่งตรงจากตลาดมีมาตรฐานในทุกวันๆ แม้ราคาจะในราคาขายเพียง 20 บาทเท่านั้น

“บางคนเขาก็ให้บอกว่าป้าขึ้นได้แล้วปีเนียเป็น 25 บาท แต่ป้าก็ไม่ขึ้นเพราะสงสารคนกินที่หาเช้ากินค่ำ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีตอนนี้ เราก็ไม่ถึงขนาดจะต้องเอาอะไรมาก ได้นิดหน่อยก็พอ เขาอยู่ได้เราก็อยู่ได้” ป้าแมว หรือ “สุนทรี ศรเจริญ” แม่ค้าใจดีเริ่มต้นเล่าด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างเรียบง่าย ซึ่งก็คงเช่นเดียวกับเรื่องราวการช่วยเหลือสังคมของเธอที่แม้จะเริ่มจากเล็กๆ แต่ก็เป็นสิ่งดีๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่ขึ้นในทุกวัน 

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

แม่ให้มา ป้าต้องให้ไป

“จุดเริ่มต้นที่ทำให้ขายข้าวแกงราคาไม่แพง 20 บาท เพราะป้าเคยเห็นแม่ลำบากมาก่อน ในสมัยเด็กๆ ครอบครัวมีลูกเยอะ แม่ก็ต้องลำบากเลี้ยงดูแลจนเราโต มีครอบครัว ก็ทำให้เห็นใจคนหาเช้ากินค่ำ”

และ ‘เข้าอกเข้าใจของคนสู้ชีวิต’ ที่ยอมอดมื้อกินมื้อดูแลครอบครัวที่รักอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเมื่อหลังเข้ามารับช่วงกิจการต่อเธอจึงค้าเอากำไรเพียงน้อยนิดเริ่มจาก 10 บาท เป็น 12 บาท มาเป็น 15 บาท และ 20 บาทเมื่อ 10 กว่าปีก่อนกระทั่งจนถึงวันนี้ แม้ว่าร้านรวงอื่นๆ ในถนนข้าวสารย่านท่องเที่ยวต่างดีดค่าอาหารอิ่มต่อมื้อแทบจะเป็นกว่าเกือบหลักร้อยบาท

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

“เราพออยู่ได้แล้ว ลูกๆ เรียนจบมีงานทำ ภาระไม่มี บ้านก็ไม่ต้องส่งแล้ว ก็โอเค ก็ไม่ถึงขนาดจะต้องเอาอะไรมาก ได้นิดหน่อยก็พอ ให้พออยู่ดูแลตัวเองได้ อย่างที่บอกเศรษฐกิจตอนนี้ไม่ดีด้วย เราอยู่ได้เขาก็อยู่ได้

“มันเป็นความรู้สึกเข้าอกเข้า บางคนเราดูแลเขารายได้ไม่มากเลยมากินที่ร้านเรา เราก็โป๊ะให้เยอะๆ ให้เขาอิ่ม เพราะเรานึกถึงสมัยก่อนของเรา  ของแม่ ของพี่ๆ น้องๆ ครอบครัวเรากว่า 6-7 คน ที่กว่าจะมีวันนี้ได้”

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

สดใหม่ ส่งตรง 'ด้วยใจ'

หลังทำตามปณิธานในการเป็นแม่ค้าข้าวแกงกำไรใจ ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดที่ผ่านมาป้าแมวยังได้ผุดไอเดีย ‘ข้าวแกงมาร์เก็ต’ โดยการนำแกงถุงต่างๆ ภายในร้านบรรจุลงในรถเข็นซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้าออกขายในราคา 20 บาทเท่าเดิม เพื่อให้คนบริเวณพื้นที่โดยย่านบางลำพูได้อิ่มท้องในราคาย่อมเยา  

“พอโควิด-19 คนน้อยลง เราขายได้น้อยลงลูกจ้างก็เสี่ยงที่จะได้น้อย หรือตกงานหากเราขายต่อไม่ไหว ก็เลยไปเอารถเข็นมาเพราะมันใส่ได้เยอะ ให้เขาเอาไปเข็นขายเพิ่มรายได้ให้เขาจากที่ตัก ที่ทำ กันอย่างเดียวหน้าร้าน”

แต่ไอเดียข้าวแกงมาร์เก็ตไม่เพียงพยุงลูกน้องในร้านให้อยู่ได้ ยังเป็นการช่วยกระจายอาหารราคาถูกของตัวเองไปถึงมือคนหาเช้ากินค่ำคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จัก ได้ผ่านมาแลวหิวได้อิ่มท้อง มีแรงสู้ในวันพรุ่งนี้กันต่อไป

“รถเข็นก็เริ่มเข็นกันตั้งแต่ 9 โมงเช้ารอบแรก รอบสอง 11 โมง รอบสามช่วง 13.00น. มันก็ช่วยให้กระจายให้คนที่เขาทำงานหาเช้ากินค่ำได้สินค้าราคาถูก เพราะบางคนก็ยังไม่รู้ หน้าร้านเราไม่ได้ติดป้ายขาย 20 บาท ก็ไปซื้อรถเข็นมาและก็เอามาติดป้ายออกเข็นขาย”

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

โดยเมนูที่มีก็เป็นแบบอย่างเช่นเดียวกับหน้าร้านบริเวณซอยรามบุตรี ช่วง 4 แยกก่อนถึงถนนข้าวสารที่เปิดขายข้าวแกงกว่า 20 เมนู ทั้ง แกงเขียวหวาน แกงส้ม แกงพะโล้ ผัดวุ้นเส้น ฯลฯ และในราคา 20 บาทไม่มีคิดเพิ่ม

“ใจคนทำอาหารคือมันถูกแล้วมันก็ต้องอร่อยด้วย เราขายถูกแต่วัตถุดิบของเราก็สดใหม่ทุกวันทุกอย่าง หมู ไก่ ปลา ซื้อวันต่อวัน ผักก็เหมือนกันซื้อวันต่อวัน ใช้เกรดทำอาหารเหมือนที่เราทำกิน พริกก็ใช้พริก ใบผักก็ผักสด”

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่

จะให้เลิกทำฝันไปไม่มีทาง

“ป้าก็จะทำไปเรื่อยๆ เพราะมันไม่เหลือบ่ากว่าแรง ขายแบบนี้หลายคนอาจจะคิดว่าอยู่ไม่ได้ แต่มันอยู่ได้ เนื่องจากมันมีบางอย่างแพงเช่นผักวันนี้แพง แต่หมูราคาไม่ได้ขึ้น อีกวันผักลด หมูก็ลด มันก็ถั่วๆ เฉลี่ย ได้อันนั้นมาโป๊ะอันนี้” ป้าแมวยิ้มเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เพราะแม้ว่าจะเหนื่อยล้าแรงกายบ้างไปตามสังขารอายุในวัยล่วง 60 ปี เข้าไปแล้ว แต่เมื่อใดที่เห็นรอยยิ้มหรือได้ยินเรื่องราวความสำเร็จในชีวิตของลูกค้าที่ขยับขึ้นก็พลันมีกำลังขึ้นมา

“ถ้าถามาว่าเหนื่อยไหม มันก็มีบ้างที่เหนื่อยกาย มีล้า ท้อ แต่พอกลับไปแล้วไปดูหนัง ฟังเพลง เดียวมันก็หายแล้ว ดูทีวีดูอะไรมันก็หาย แต่เรากลับไม่เหนื่อยใจ เราสุขใจ เพราะลูกค้าหลายๆ คนมาทำงาน มาสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ รุ่นๆ ก็กลายเป็นลูกเป็นหลาน เป็นน้อง

“วันหนึ่งเราเห็นเขายืนได้ เขาประสบความสำเร็จ เขามีชีวิตที่ดี ป้าเห็นเขาแล้วมันก็มีความสุข (ยิ้ม) มันก็ทำให้เราสุขภาพดีด้วยนะ ป้าเชื่อเรื่องของกาใรให้ ให้แล้วเราจะได้รับ ไม่ว่าทางใดหรือทางหนึ่งป้าคิดแบบนี้ ป้าก็เลยไม่คิดจะขึ้นราคา 20 บาท” เธอกล่าวทิ้งท้าย

“ป้าแมวข้าวแกง 20 บาท” ครัวใจดีของนักสู้ชีวิตในเมืองใหญ่