‘ขายหอย’ บนคอนโด ไอเดียสร้างเงินแสนบาทต่อเดือนของอดีตสาวพริตตี้ “ไอซ์ วรัญญา”

เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล

ภาพ :ฉัตรอนันต์ ฉัตรอภิวันท์,ปัณณธร แจ้งประโคน

ในยุคปัจจุบันไม่มีใครไม่อยากจะรวยและก็ไม่มีใครอยากเหนื่อยผิดที่ให้เสียเวลา มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในการทำทั้งสองอย่างจะบรรจบในการสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตและความฝัน

ย้อนกลับไปเมื่อ 2,000 ปีก่อน “ขงจื๊อ" เคยกล่าวไว้ถึงลักษณะของคนไว้ 4 ประเภท ได้แก่ คนฉลาดและขยันควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพ คนฉลาดแต่ขี้เกียจจัดเป็นทหารฝ่ายเสนาธิการวางแผนแถวหลัง คนโง่และขี้เกียจให้เป็นทัพหน้า หากแต่คนโง่และขยันต้องเอาไปตัดหัวทิ้งเพราะจะทำให้งานพัง

ในปีพ.ศ.2563 ประเทศไทยมีอดีตสาวพริตตี้ “ไอซ์-วรัญญา มุสิกไชย” นั่งๆ นอนๆ ดูซีรีย์ที่ชอบพร้อมกับทำธุรกิจร้าน “อีหอย” บนคอนโดมีรายได้กว่าแสนบาท่อเดือน โดยไม่ต้องออกไปแม้ซื้อวัตถุดิบเลยด้วยซ้ำ

เงินอยู่ในอากาศ ‘ถ้าเราไขว่คว้า’

วรัญญาก็เหมือนกับวัยรุ่นส่วนใหญ่ในยุคนี้ทั่วๆ ไป มีความฝันและต้องการทำในสิ่งที่รักเพื่อหล่อเลี้ยงทั้งชีวิตและจิตใจไปพร้อมๆ กันได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะสร้างทางฝันให้ทั้งสองอย่างมูฟออนไปด้วยกัน ต่อให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไรก็ตาม

“รู้ว่าตัวเองชอบทำอาหาร ชอบอยู่ห้องไม่อยากลงทุนเยอะ แต่โอ๊ย…แล้วจะขายอะไร มันไม่มีช่องทาง ยังตอบโจทย์ตัวเองไม่ได้ว่าควรที่จะทำอะไร”

2เดือนเต็มที่นั่งๆ นอนๆ คิด จนไปเจอรายการทีวีนำเสนอเกี่ยวกับหอยแครง ที่ทั้งตัวเองกินไม่เป็นแต่ทำให้เธอรู้สึกอยากลองที่จะทานขึ้นมาในทันที ที่สำคัญอุปกรณ์ในการทำน้อยชิ้นและหากินไม่ได้ทั่วไปในแถวปากซอยทองหล่อ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำหรืออาหารตามสั่ง ไอเดียแสนบรรเจิด ‘ขายหอย’ บนคอนโดจึงเกิดขึ้นมา ณ บัดนั้น

“เราทำขายมันจะดีไหม ก็มีแต่คนพูดว่ามันจะดีเหรอ มันขายได้เหรอ ขายออนไลน์ไม่มีหน้าร้านมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ก็เก็บเงียบเลยหลังปรึกษา ไม่กล้าที่บอกใครต่อว่าจะทำนะ”

แต่ก็อย่างว่า ‘คนเราจะประสบความสำเร็จ’ ส่วนมากมักจะมองหาทางออก การไม่มีหน้าร้านสมัยนี้อาจจะไม่ใช่อุปสรรค เพราะร้านค้าหลายๆ เจ้าที่รสชาติดี ถึงต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนคนก็ยังยอมจ่ายค่าส่งเพื่อให้ได้ทาน ฉะนั้น ‘อาหารอร่อยอยู่ที่ไหนก็ขายได้’ เพียงแต่ต้องหาวิธีให้เจอ

“เราก็เออทำไมต้องไปขายตากแดด ไปตั้งโต๊ะหนักๆ เปิดร้าน ทุกวันนี้ยังสั่งร้านที่ไกลๆ ยอมเสียค่าส่งแพงๆ เพื่อจะได้กินเลย มันก็ต้องมีสิ่งทดแทน เราจะขายบนคอนโดเรามันก็น่าจะทำได้ซิ อยู่ที่เราจะทำหรือไม่ทำ และสิ่งที่เราทำมันดีมีคุณภาพมันก็สามารถหาเงินได้ ก็สังเกตตัวเราเองสั่งร้านอร่อยกินทุกวัน จ่ายค่าส่งไกลๆ 300-400 บาทก็สั่ง ก็เลยสมัครแอพพลิเคชั่นที่ลองรับการจัดส่งอาหารเดริเวอรี่ต่างๆ แกร็บฟู้ด เก็ทฟู๊ด ไลน์แมนเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า” 

ทางเดินมันมีไม่มาก

อยู่ที่จะลองทำหรือเปล่า

เส้นทางการขายหอยแครงลวกบนคอนโดเริ่มดูเหมือนจะง่ายๆ สั่งของทุกอย่างผ่านแอพพลิเคชั่นไม่ว่าจะหอย ผัก พริก ฯลฯ แต่ในความง่ายก็มีความละเอียดอ่อนเหมือนกับอาหารทั่วๆ ไป ที่กว่าจะอร่อยและดีได้ต้องใส่ใจในคุณภาพวัตถุดิบและพัฒนาฝีมือเรื่องรสชาติให้แม่นยำคงที่

“ทำแรกๆ ไปซื้อที่ตลาดซื้อมาน้อย มาทดลองทำให้เพื่อนและพี่ มันก็เจอแค่ปัญหารสชาติ เผ็ดน้อยไป เปรี้ยวน้อยไป ซึ่งพอทำบ่อยๆ มันก็อยู่มือ แต่เรื่องที่ยากที่สุดคือการเลือกหาหอยที่มีคุณภาพ แรกๆ ก็ลองผิดลองถูกด้วยความที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับหอยเลย สั่งมา 10 โล ขายได้แค่ 5 โล นอกนั้นเน่าต้องทิ้ง”

ในวงการ ‘หอย’ คนภายนอกอาจจะมองไม่ออกด้วยหน้าตาของหอยที่คล้ายคลึงกัน แต่ความจริงแล้ว ‘หอยแครง’ นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ วรัญญาบอกว่าหอยแครงที่ขายในตลาดไม่ใช่มีแค่มาจากประเทศไทย ในทะเลทวีปเอเชียมีทั้งหอยอินเดีย หอยมาเลเซีย และในหอบแครงแต่ละประเภทก็แยกเป็นหอยธรรมชาติและหอยเลี้ยงบ่อ ซึ่งจะมีรสชาติและกลิ่น ที่แตกต่างกันอีกด้วย

“เราสั่งซื้อผ่านเพจในเน็ตและให้เขามาส่ง  หอยที่เราได้รับกับเน่าบ้าง ไซส์ไม่ตรงบ้าง เอาหอยอื่นๆ มาผสมบ้าง มันก็ยากถึงยากมากกว่าจะเจอร้านที่ดี ทุกอาชีพมีอุปสรรค ช่วงนั้นก็มีโดนลูกค้าคอมเพลนว่าเขาไม่ได้ซื้อมาไหว้เจ้านะ เราก็อยากโทรศัพท์กลับไปอธิบายให้ลูกค้าฟัง”

อย่างไรก็ตามสาวน้อยรูปร่างอรชรไม่ยอมหยุดและล้มเลิก เธอเดินหน้าเสาะหาจนเจอร้านขายส่งที่มีคุณภาพซึ่งแม้ว่าราคาซื้อขายจะสูงถึง 200 บาทขึ้นต่อกิโลกรัม แต่หอยแครงประเภทเลี้ยงบ่อที่เลือกใช้มีความหวานและไม่มีกลิ่นคาว นอกจากนี้ยังมีการคัดไซส์ที่ส่งใหม่วันต่อวัน ทำให้คุณภาพของหอยแครงร้านเธอเป็นที่ถูกปากของลูกค้าในที่สุด

“เราไม่ได้อยากขายของไม่ดี ขายไปเราเองก็ไม่สบายใจ ทุกออเดอร์เราก็อยากจะทำให้มันดีที่สุด ทำน้ำจิ้มทำวันต่อวัน หอยมันมีดินเราก็ต้องเคลียดินให้สะอาด ใส่ใจเหมือนเรากินเอง   เพราะพอรสชาติได้ คุณภาพดี ลูกค้าเขาก็จะซื้อของเรา ตอนนี้ทางร้านมีลูกค้าประจำใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน”

ปัจจุบันร้านอีหอย (E.HOI) ไม่เพียงสร้างยอดขายได้ถึง 1 แสนบาทต่อเดือน ยังมีหน้าร้านขายเพิ่มขึ้นมาด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งปี ทั้งหมดจากเงินลงทุนเพียงแค่ 3,000 บาทเท่านั้นสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ โดยมีเมนูหอยแครง 2 เมนู ได้แก่ 1.หอยลวกธรรมดาชุดเล็ก160 บาท ชุดใหญ่ 250 บาท หอยแครงแบบจัมโบ้ลวกชุดเล็ก 200 บาท ชุดใหญ่ 290 บาท  2.เมี่ยงหอยแครงลวกชุดเล็ก 250 บาท เมี่ยงหอยแครงลวกจัมโบ้ 280 บาท (ในกรณีเพิ่มพิเศษน้ำจิ้มซีฟู้ด 150 ml. ขวดละ 50 บาท เส้นหมี่ลวกถุงละ 20 บาท ชุดผักชุดละ 30 บาท)

‘ทางสร้างเงิน’ คือเลือกทำในสิ่งที่รัก

วรัญญาย้ำหลักในการทำธุรกิจ ‘ด้วยคำว่ารัก’ ทุกครั้งที่ตื่นมารู้สึกว่าอยากขายของกระตุ้นให้พัฒนาต่อยอด แต่ถ้าไม่ชอบแค่ตื่นมาไม่อยากทำแล้วกับการที่จะนอนดูซีรีย์ตากแอร์อยู่ห้องและได้เงินไปด้วยสบายๆ แบบอย่างที่เธอทำ

“ที่บ้านเปิดร้านอาหารและคุณยายก็มักจะให้ไปช่วยเตรียมของ ตำน้ำพริก มันก็ซึมซับโดยปริยาย พอชอบทำอาหารตอนย้ายออกมาอยู่คอนโดช่วงเรียนมหาลัยว่างๆ ก็จะเข้าอินเตอร์เน็ตหาเมนูใหม่ๆ ที่น่าลองทำบ้าง ที่คนกำลังฮิตบ้าง จนเป็นแม่ครัวประจำปาร์ตี้เพื่อนๆ”

“และเปิดร้านวุ้นลูกชุบ ขายแถวท่าเรือโรงพยาบาลศิริราช” เธอย้อนช่วงต่อตีสร้างความฝันและอาชีพให้เดินไปด้วยกัน

“ร้านก็ขายได้ดี แต่กะทิต้องใช้วันต่อวันและเรามีเรียนทุกวัน จะเก็บกะทิแช่ตู้เย็นรสชาติมันก็เปลี่ยน เราชอบทำอาหารก็อยากทำให้มันดีที่สุด ถ้ามันไม่ดีเราก็ไม่อยากขาย ก็เลยเลิกทำ มาทำพริตตี้แทน เพราะว่าเลือกเวลาการทำงานได้ ไม่ว่าง ติดเรียน เราก็เลือกไม่ทำงานก็ได้”  

ทว่าในใจที่เต็มไปด้วยความฝัน อยากจะมีกิจการธุรกิจของตัวเองสักหนึ่งธุรกิจ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวและตัวเองอยู่สุขสบาย หลังเรียนจบจึงได้ลองอีกครั้งโดยครั้งนี้ลงหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสร้างยอดขายดีอีกเช่นเดียวกัน

“ทุกวันนี้ก็มีคนถามเยอะ ร้าน E.HOI ไม่มีหน้าร้านแล้วทำยังไง อยากทำบ้าง จริงๆ มันคือถ้าเราชอบเราก็จะค้นหาคำตอบ ซึ่งทุกวันนี้ความรู้อยู่ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้วเพียงแค่เราตั้งใจที่จะทำ

“คือการที่เราจะสำเร็จได้ต้องถามตัวเองก่อนว่า โจทย์ที่ตัวเองตั้งไว้ต้องการอะไรกันแน่เพื่อที่จะก้าวต่อไป พอเราเจอสิ่งที่ใช่เราก็จะพัฒนาและก็จะพาเราสำเร็จ” เธอกล่าวทิ้งท้าย