เป็นผู้หมวดแล้ว! ‘จ่าเฉย’ 12 ปี ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีบ่น ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ตอบแทนเลือนขั้นประดับยศนายร้อย

ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์เลื่อนขั้น 'จ่าเฉย' เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ‘ยศนายร้อย’  ตอบแทนความดีที่อดทน ตากแดดร้อน ลม ฝน หนาว ไม่ปริปากบ่นหรือย่อท้อ แถมทำสีใหม่ขาวและหล่อขึ้นกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. พันตำรวจเอก ดิษยเดช พัชรภูวดล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พร้อมกับเจ้าหน้าตำรวจภายใต้การบังคับบัญชาร่วมกันยินดีตอบแทนความดีของ ‘จ่าเฉย’ หุ่นตำรวจจราจรที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องปรามผู้ขับขี่รถไม่ให้กระทำผิดและลดอุบัติเหตุ ซึ่งจ่าเฉยหุ่นตำรวจจราจรได้ปฎิบัติหน้าที่อดทน ตากแดดร้อน ลม ฝน หนาว มานาน ไม่เคยปริปากบ่นหรือย่อท้อแต่ประการใด พร้อมกันนั้นยังได้ทาสีใหม่ให้ดูดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

โดย ‘จ่าเฉย’ เป็นชื่อเรียกหุ่นตำรวจจราจรในกรุงเทพมหานคร ราชอาณาจักรไทย กำเนิดเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2550 หลังจากที่โรงพยาบาลวิภาวดีเห็นถึงความลำบากตรากตรำของตำรวจจราจร จึงมีความประสงค์แบ่งเบาภารกิจ ทำให้ได้ร่วมกับภาคเอกชนต่างๆ ลงขันกันจัดสร้างหุ่นจำลองตำรวจจราจรขึ้นเพื่อมอบให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลนำไปประจำไว้ยังจุดต่าง ๆ ตามถนนในเขตอำนาจของตำรวจนครบาล สำหรับป้องปรามผู้ขับขี่รถไม่ให้กระทำผิด และเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยการจัดสร้างจ่าเฉยหนึ่งตัวเป็นราคาสองหมื่นบาทเศษ

ต่อมาในปีพ.ศ. 2552 พลตำรวจโท สัณฐาน ชยนนท์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ปลดระวางจ่าเฉยเนื่องจากมีประชาชนเขียนจดหมายหลังจากมีจ่าเฉยแล้วเจ้าหน้าที่ตำตรวจไม่ค่อยปฏิบัติหน้าที่และหลังจากมีหุ่นตำรวจมาพักใหญ่ประชาชนเริ่มคุ้นเคยและทำผิดกฎจราจรบ่อย ๆ ทั้งเป็นที่ขบขันกับผู้ที่พบเห็น ซึ่งการเรียกเก็บจ่าเฉยในครั้งนี้ถือเป็นการปลดระวางจ่าเฉยมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตามต่อมาวันที่ 1 ตุลาคม 2553 พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รรท.ผบช.ก. มองเห็นคุณค่า ตรวจสอบประวัติจ่าเฉยไม่มีความผิดเรื่องส่วยหรือคลิปฉาว เคยตกเป็นแพะเพราะตำรวจไม่ยอมทำงาน เห็นใจจ่าเฉย จึงขอตัวจาก บช.น.ข้ามหน่วยมาช่วยงานตำรวจสอบสวนกลาง กลับเข้าทำงานในเชิงสัญลักษณ์เพื่อป้องกันอาชญากรรม และเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กรต่อไป