ตัดวงจรโจรผ้าเหลือง!ใครบวชพระต้องถูกตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรก่อน

เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรนำร่องใครจะบวชเป็นพระต้องถูกตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรก่อนเตือนผู้รู้ตัวมีหมายจับให้ลาสิกขาบทไปเสียก่อนจะถูกตำรวจตามซิว

ที่วัดตลุกหิน (พระธาตุ) จ.พิจิตรได้จัดให้มีพิธีปิดการอบรมและการอุปสมบทหมู่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 285 รูป โดยมีนายวรพันธุ์ สุวัณณุส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อร่วมปฏิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวิชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งภายในงานได้มีการมอบใบประกาศให้กับผู้ที่ผ่านการปฏิบัติธรรมร่วมโครงการอุปสมบทหมู่

พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรกล่าวว่า หน้าที่ของพระสงฆ์ที่ดี คือต้องสวดมนต์ไหว้พระรู้หน้าที่ และปฏิบัติกิจของสงฆ์รักษาศีลบำเพ็ญประโยชน์ให้ทาน สร้างทานบารมีรวมถึงต้องบิณฑบาตทำวัดเช้า-เย็น ถือศีลให้เคร่งครัดเพื่อให้ญาติโยมเลื่อมใสศรัทธา ทุกวันนี้พระสงฆ์บางรูป บางท่าน ทำตัวไม่เหมาะสมทำให้สังคมติฉินนินทาจนส่งผลให้ญาติโยมเหินห่างไม่เข้าวัด

"ดังนั้นต่อไปนี้คณะสงฆ์จังหวัดพิจิตรจึงได้ร่วมกับผู้ว่าฯพิจิตร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้เริ่มปฏิบัติการเข้มวางกฎกติกา หรือระเบียบไว้ว่า ใครที่คิดจะบวชลูกบวชหลาน หรือ ผู้ที่คิดจะบวชพระไม่ว่าจะเป็นการบวชในเทศกาลต่างๆ หรือบวชตามประเพณี รวมถึงบวชเพื่อศึกษาเล่าเรียน ต้องวางแผนและเตรียมการล่วงหน้าก่อนบวชอย่างน้อย 1 เดือน ทั้งนี้ เพื่อจะได้นำหลักฐานบัตรประชาชนส่งให้สำนักพุทธศาสนาทำบันทึก และส่งไปให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและฝ่ายตรวจสอบอาชญากรรมดำเนินการตรวจสอบประวัติว่าไม่มีคดีติดตัวหรือไม่มีหมายจับใดๆจึงจะทำการบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้"พระราชสิทธิเวที กล่าว

ส่วนพระสงฆ์ที่บวชอยู่แล้วก็จะต้องถูกตรวจสอบประวัติย้อนหลังพระทุกรูปที่บวชอยู่ในทุกวัดด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงขอเตือนว่าใครที่รู้ตัวว่ามีหมายจับหรือหนีคดีแอบมาบวชเป็นพระอยู่ ขอให้ลาสิกขาหรือสึกจากการเป็นพระสงฆ์ไปมอบตัวชดใช้กรรม อย่าให้ตำรวจต้องมาจับคาผ้าเหลืองให้เสื่อมเสียอับอายแก่วงการพระพุทธศาสนาต่อไปอีกเลย