สาวบราซิลน้ำตาไหล! สุดดีใจพนักงานร้านสะดวกซื้อเก็บเงินแสนคืนให้

สาวบราซิลสุดดีใจ พนักงานร้านสะดวกซื้อเก็บเงินแสนที่ลืมไว้ในร้านมาคืนให้

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 62 ที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชั้นที่ 4 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางสาว พรไพลิน สีสด อายุ 33 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมัน พีที ริมถนนสายพระราม 2 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางนำเงินสดชนิดสกุลดอนล่าและสกุลไทยรวมเป็นเงิน 1 แสนบาท มามอบคืนให้กับ นางสาว พอลล่า อายุ 42 ปี ชาวบราซิล เจ้าของเงินสดจำนวนดังกล่าวที่ลืมไว้ในร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันดังกล่าว

หลังจากที่นางสาวพอลล่าได้รับเงินคืนแล้วจึงมอบสินน้ำใจให้กับนางสาวพรไพลิน ด้วยเช่นกันจากนั้นจึงโผเข้ากอดทั้งน้ำตาด้วยความดีใจที่ได้รับเงินสดคืนใน พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณนางสาวพรไพลิน ที่เก็บเงินจำนวนดังกล่าวมาส่งคืนให้ ท่ามกลางเสียงปรบมือและการแสดงความยินดีและดีใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและสื่อมวลชน

นางสาวพอลล่า กล่าวว่า เดินทางมายังประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 โดยในวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมาหลังจากเดินทางออกจากที่พักในกทม.นั่งรถตู้เดินทางจะไปเที่ยวที่ตลาดน้ำอัมพวาระหว่างทางได้แวะจอดปั้มน้ำมันดังกล่าวและเข้าไปซื้อเสื้อคลุมกันฝนหลังจากจ่ายเงินเสร็จก็เดินทางต่อทันทีโดยที่ไม่รู้ตัวว่าลืมซองบรรจุเงินไว้ที่ร้านกว่าจะมาทราบอีกครั้งก็กลับมาถึงที่พักของทางโรงแรมแล้วแต่ไม่พบซองเงินดังกล่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมก็ไม่พบสิ่งผิดปกติจนถอดใจคิดว่าคงไม่ได้คืน

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนสภ.สมุทรสงครามได้รับแจ้งจาก นางสาวพรไพลิน ว่าได้เก็บเงินสดจำนวน 1 แสนบาทได้และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเจ้าของจึงให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติรายหนึ่งลืมไว้จึงตรวจสอบทะเบียนรถตู้ที่นักท่องเที่ยวรายนี้โดยสารมาจนกระทั่งทราบที่พักและสืบทราบจนรู้ตัวเจ้าของเงินจึงมีการนัดมอบส่งคืนทรัพย์สินดังกล่าวในวันนี้

ด้านนางสาวพรไพลิน เปิดใจว่าตนเองได้รับการฝึกสอนจากคุณพ่อและคุณแม่มาตั้งแต่เด็กว่าสิ่งของหรือทรัพย์สินใดที่ไม่ใช่ของเราก็อย่าไปอยากได้และเมื่อเก็บทรัพย์สินอะไรได้ขอให้ตามหาเจ้าของเพื่อคืนเขา ขอให้นึกถึงใจเขาใจเรา กับทรัพย์สินที่หายไป หากเป็นเราก็คงเสียใจและทุกข์ใจ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเก็บเงินสดได้เช่นกันก็ตามหาจนส่งคืนเจ้าของมาแล้ว ครั้งนี้ตนก็อยากให้เจ้าของได้รับเงินคืนจึงตัดสินใจแจ้งบิดาให้พาไปแจ้งความเพื่อตามหาเจ้าของและในวันนี้ได้มอบคืนให้แล้วตนเองก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก