เหมือนจริง!ประจวบฯซ้อมแผนรับมืออุบัติเหตุทางถนนปีใหม่'62

หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวง ประจวบคีรีขันธ์ซ้อมแผนเสมือนจริงรับมืออุบัติเหตุการเดินทางของประชาชนในช่วงปีใหม่เน้นความปลอดภัยทางถนน

หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฝึกซ้อมแผนรองรับอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ซึ่งจะมีประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นเส้นทางสายหลักผ่านลงพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ส่งผลให้มีปริมาณรถยนต์จำนวนมากเดินทางผ่านในช่วงเวลาดังกล่าว และอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น

การฝึกซ้อมแผนจึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินลงได้ โดยมี พ.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย ผู้แทนจากแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ หมวดทางหลวงหัวหิน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลทับใต้ , เจ้าหน้าที่ทหาร ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.หัวหิน และ ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ โดยมีทีมครูฝึกจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยภูมินทร์ จำนวน 9 คน นำโดยนายเชษฐดา เตือนจิตร์ พนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชำนาญการ ทีมดับเพลิง กรุงเทพฯ มาทำการฝึกซ้อมให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อให้เกิดความพร้อมและความชำนาญ และช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ฝึกซ้อมทุกคน

การฝึกซ้อมในส่วนแรกเป็นการฝึกซ้อมการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุจนรถยนต์ถูกล็อคประตู ไม่สามารถเปิดออกได้ ผู้ช่วยเหลือสามารถหาอุปกรณ์ใกล้ตัว เช่น หมอนพิงศีรษะเก้าอี้นั่งในรถยนต์ เมื่อถอดออกมาจะมีเหล็กยาวจำนวน2ชิ้นอยู่ด้านใน สามารถนำมาใช้เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทุบกระจกรถให้แตกได้อย่างง่ายดายโดยไม่เป็นอันตรายต่อคนช่วยและประชาชนที่ติดอยู่ภายในรถ โดยเลือกงัดด้านล่างตามมุมกระจกซึ่งเป็นส่วนที่อ่อนไหว กระจกจะแตกได้ง่าย

นายเชษฐดา เตือนจิตร์ พนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชำนาญการ ทีมดับเพลิง กรุงเทพฯ กล่าวว่า สำหรับการฝึกซ้อมแผนเสมือนจริงในส่วนที่สอง คือการจำลองเหตุการณ์ รถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและติดภายใน อีกทั้งรถยนต์เกิดประกายไฟจนลุกไหม้ขึ้น ทั้งนี้เมื่อศูนย์วิทยุกู้ภัยฯ รับแจ้งเหตุ ได้ส่งทีมกู้ภัยเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อประเมินสถานการณ์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนจะต้องทำการ ปิดกั้นการจราจร เคลียร์รถยนต์ออกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

จากนั้นทีมกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจำนวน 2 คน ออกจากรถ และนำผู้บาดเจ็บจากรถจักรยานยนต์ลำเลียงขึ้นรถพยาบาล ความยากในการช่วยเหลือนอกจากจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นสำคัญแล้ว อีกประการคือเหตุซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยในกรณีนี้คือเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ซึ่งจะเพิ่มอันตรายให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องรีบประสานรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยงานข้างเคียงเข้าช่วยระงับเหตุเพลิงไหม้เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่ประสบเหตุไปไว้ในจุดปลอดภัย

นายสุวิวัฒน์ พรหมมา หัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถนนบายพาส ทางหลวงหมายเลข 37 และถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข4 เป็นถนนสายหลักที่ประชาชนใช้สัญจรผ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล การเลือกเหตุการณ์ที่รถยนต์ประสบเหตุจนเกิดเพลิงไหม้มาฝึกซ้อมแผนให้เกิดความชำนาญแก่เจ้าหน้าที่กู้ภัยในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความชำนาญเครื่องมือและความพร้อมของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยชีวิตประชาชนที่ประสบเหตุได้

ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้กู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยกู้ภัยเครือข่ายพันธมิตร อย่างกู้ภัยสว่างหัวหินธรรมสถาน และกู้ภัยในเครือสว่างทั่วทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนตลอดเส้นทาง แต่ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่จะต้องเดินทางไกลในช่วงเทศกาลได้เตรียมความพร้อมตัวเอง โดยเฉพาะคนขับรถ ควรตรวจสุขภาพร่างกายให้พร้อมเดินทางและพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรตรวจความพร้อมของรถยนต์ที่ใช้เดินทางเป็นสำคัญด้วย