"ดีกว่าตายแล้วเอาไปเผาทิ้ง" ลุงป่วยอัมพฤกษ์ผู้ใจบุญขอบริจาคร่างกายแก่กาชาด 

ลุงพายัพขอบริจาคร่างกายให้สภากาชาดไทย หลังไม่สามารถสละดวงตาให้สาวตาบอดได้เพราะติดขัดข้อกฎหมาย

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. จากกรณีที่ นายพายัพ รอดเมือง อายุ 59 ปี ชาว ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ชายพิการป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนติดเตียงมานานกว่า 21 ปี ผู้ใจบุญที่ตัดสินใจช่วยบริจาคดวงตาให้แก่สาววัย 26 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ผู้พิการตาบอด ที่ต้องเลี้ยงดูลูกน้อยแต่เพียงลำพัง แต่ไม่สามารถบริจาคได้ตามความประสงค์เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมายที่ยังไม่เอื้ออำนวยนั้น

ล่าสุด นายพายัพ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ประสงค์ที่จะบริจาคร่างกายให้กับสภากาชาดไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา สภากาชาดไทย นำโดยนางเนตรชนก คำดี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้พาคณะรับบริจาคจำนวนกว่า 20 คนเดินทางที่บ้านเพื่อมาทำเรื่องขอรับบริจาคให้แล้ว

"การบริจาคอวัยวะ และร่างกายในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากความตั้งใจที่ผมจะขอบริจาคดวงตาให้แก่ น้องยุ้ย แต่ไม่สำเร็จจึงได้หันมาบริจาคอวัยวะและร่างกายแทน เพื่อเป็นการทำบุญซึ่งการบริจาคถือว่าได้ดำเนินการไปอย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดีแล้ว และขอเชิญชวนให้ผู้พิการลักษณะเดียวกันกับตน หรือผู้ป่วย หรือผู้ไม่พิการแต่อยากทำบุญนั้น มาร่วมกันบริจาคร่างกายและอวัยวะไว้ให้แก่คนที่กำลังมีความต้องการ ผู้ที่กำลังรอความหวังจะนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก ดีกว่าเมื่อตายไปแล้วก็จะต้องนำไปเผาทิ้งเฉยๆ โดยไม่ได้ประโยชน์อะไร"นายพายัพกล่าว

นายพายัพกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าหากเราได้เกิดมาใหม่อีกครั้ง ก็น่าจะมีอวัยวะครบถ้วน 32 เหมือนเดิม จากผลบุญที่เราได้ทำไว้ที่ยังได้ใช้ร่างกายที่บริจาคไว้ได้ช่วยเหลือชีวิตคนอื่นๆ ที่ยังรอความหวังอยู่ต่อไป