สาว24สร้างพลังคิดบวกรักษามะเร็งเยื่อบุช่องท้อง

สาว24ป่วยมะเร็งเยื่อบุช่องท้องคว้าชนะเลิศเรียงความหัวข้อ"เปลี่ยน"ของชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งเผยพลังคิดบวกไม่ยอมแพ้-ต้องหายและสู้กับมันให้ได้

จบไปแล้วการเสวนาโดยศ.หวัง เจิ้น กั๋ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งเจิ้นกั๋ว ปักกิ่ง และ รศ.นพ.นรินทร์ วรวุฒิ จากหน่วยมะเร็ง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมเสวนา “นวัตกรรมผสมผสาน ต้านมะเร็งให้อยู่หมัด” ซึ่งมีการเผยนวัตกรรมใหม่ๆในการรักษา จัดโดย ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลการประกวดเรียงความหัวข้อ “เปลี่ยน” โดยมีผลงานเรียงความจากผู้ป่วยมะเร็งและญาติได้รับรางวัล 7 ผลงาน จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดจากทั่วประเทศทั้งหมด 258 ผลงาน ซี่งชมรมฯ จะได้นำผลงานที่ได้รับรางวัลเผยแพร่ใน www.siamca.com ต่อไป

จากโครงการประกวดเรียงความหัวข้อ “เปลี่ยน” ของชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่เชิญชวนให้ผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัว ร่วมเขียนแบ่งปันประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ ตลอดเวลารับผลงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2560 ปรากฏว่ามีผู้ส่งผลเข้างานร่วมประกวดถึง 258 ผลงาน หลังจากการคัดเลือกจากเข้มข้น ได้ผลผู้รับรางวัลชนะเลิศและรอง 7 ผลงาน โดยมี นางสาวณิชาภัทร เจษฎาพันธ์ เจ้าของผลงานเรื่อง “เปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน” เป็นผู้รับรางวัลชนะเลิศ

ณิชาภัทรได้เล่าถึงตัวเองว่า “ฉันอายุ 24 ปี กำลังเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน เคยคิดว่ายังมีเวลาชีวิตเหลืออีกมากมายแต่อะไรก็ไม่แน่นอน เมื่อทราบว่าเป็นมะเร็งเยื่อบุช่องท้อง ซึ่งมีก้อนใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร และมีก้อนเล็ก ๆ กระจายอยู่เต็มท้องลามไปถึงบริเวณผิวตับด้วยนั้น ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกว่าเวลาของฉันอาจจะเหลือไม่มากนัก และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ฉันเริ่มเปลี่ยนความคิดของตัวเองว่า ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะต้องหาย และฉันจะต้องสู้กับมันให้ได้ เพื่อที่ฉันจะได้มีเวลาใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้อีกนาน ๆ"

ประการแรกที่ณิชาภัทรเปลี่ยน คือ ความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง รักและใส่ใจตัวเองมากขึ้น หาเวลาที่ทำในสิ่งที่ชอบและอยากจะทำแต่เมื่อก่อนไม่มีโอกาสได้ทำ เลิกคิดมาก เลิกเครียด และรู้จะปล่อยวาง ประการที่สองที่เปลี่ยนไป คือ เปลี่ยนความคิดต่อคนรอบข้าง ก่อนที่ณิชาภัทรจะป่วยเป็นมะเร็ง เธอมักคิดว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีใครรัก รู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้าง แต่เมื่อป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้เธอรู้ว่าคิดผิด เพราะในความเป็นจริงมีคนรักและเป็นห่วงมากมาย โดยส่งความห่วงใยมาจากทุกช่องทาง

ประการสุดท้ายที่เปลี่ยนคือเปลี่ยนมาคิดและทำเพื่อคนอื่นมากขึ้น โดยณิชาภัทรอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีประโยชน์ต่อผู้อื่น เธอได้สร้างเพจของตัวเองขึ้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเธอและส่งต่อกำลังใจถึงผู้อื่น โดยหวังว่าคนที่ติดตามชีวิตเธอจะได้รับพลังและกำลังใจ และอยากให้พวกเขาได้เข้าใจชีวิตของคนที่ป่วย อยากให้ทุกคนได้รู้สึกว่าดีขนาดไหนที่สุขภาพดีและมีโอกาสได้ใช้ชีวิต

“ความคิดนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก ฉันเชื่อว่าแม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเลวร้ายสักเพียงใด แต่จะต้องมีเรื่องดี ๆ ซ่อนอยู่ ขอเพียงแค่เรามองหาเรื่องดีในสถานการณ์นั้นให้พบ และรับมันเข้ามาเป็นพลังบวกให้กับชีวิต” ณิชาภัทร กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจสามารถติดตามเรื่องราวอันจะเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับมะเร็ง ได้ที่ www.siamca.com หรือ Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง