นักแสดงยอดกตัญญูสุดดีใจตามหาแม่มานานจนเจอ

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครนักแสดงสมทบค่ายละครดังยอดกตัญญูตามหาแม่กว่า30ปีจนพบเป็นคนเร่ร่อนที่พิษณุโลกเดินทางไปขอรับมาดูแล

เมื่อวันที่19ก.ค.60 กรณีเจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบสังคม จ.พิษณุโลก นำนางนิภา คงมา อายุ 67 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 3 ต.หาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีพฤติกรรมเร่ร่อนขอทาน ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก และมีการนำเรื่องราวไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ปรากฎว่า ได้มีน.ส.โชติกา เกตุสิทธิ์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 335/22 ซอยสายไหม 33/1  แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม.อาชีพนักแสดงสมทบสังกัดค่ายสามเศียร ของบริษัทจ๊ะทิงจา เดินทางมาที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.พิษณุโลกเพื่อตรวจสอบและในทันทีที่ได้พบหน้าปรากฎว่า น.ส.โชติกา ถึงกับร่ำไห้โผเข้ากอดด้วยความดีใจและยืนยันว่าเป็นแม่ของของตัวเอง

น.ส.โชติกา เปิดเผยว่า เมื่อตอนอายุ 3 ขวบบิดาถูกยิงเสียชีวิต แม่จึงพาไปอยู่ที่กทม.ประกอบอาชีพรับจ้างทำงานก่อสร้าง ด้วยฐานะที่ยากจนจึงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้รับเหมาก่อสร้างเพราะอยากให้ตนได้เรียนหนังสือ ระหว่างเรียนจนถึง ป.4 แม่ก็ยังแวะเวียนไปหาก่อนเงียบหายไป ได้อยู่กับบิดาและมารดาบุญธรรมถึงอายุ 12 ปี ก็ออกจากบ้านและไปหางานรับจ้างตามร้านขายก๋วยเตี๋ยว และร้านขายข้าวแกง รวมทั้งเป็นคนรับใช้ตามบ้าน

ต่อมา เรียนกศน.จนจบ ม.3 แล้วเริ่มเรียนนวดแผนไทย รวมทั้งเรียนการแสดง กระทั่งผู้ใหญ่ในค่ายสามเศียรจำกัด เมตตาให้เป็นนักแสดงสมทบละครทางโทรทัศน์หลายเรื่อง เรื่องล่าสุดที่แสดงคือ “สี่ยอดกุมาร”เสนอทางช่อง 7 สี แต่รายได้ก็ไม่มากมายอะไร เพียงแต่เป็นอาชีพที่ตนชอบเท่านั้น เมื่อมีเวลาว่างไม่ได้ถ่ายละครตนก็ไปรับจ้างนวดแผนโบราณตามร้านนวดที่รู้จักกัน

นางสีสุดา  พลอยประดับ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า เมื่อมีบุตรมาแสดงตนพร้อมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทางศูนย์ก็พร้อมให้รับตัวกลับไป และไม่จำเป็นต้องเป็นบุตร หากเป็นญาติก็สามารถรับตัวบุคคลไร้ที่พึ่งไปได้ด้วยเช่นกัน แต่ทางศูนย์ต้องมีการสอบถามซักประวัติให้แน่ชัดก่อนที่จะมอบตัวให้ไป

"การที่นางสาวโชติกา หรือเอ๋ นักแสดงสมทบละครโทรทัศน์รายนี้ นำหลักฐานมารับตัวนางนิภาซึ่งเป็นคนมีพฤติกรรมเร่ร่อนขอทานที่เป็นมารดาจริงๆที่พลัดพรากกันมากว่า 30 ปีในวันนี้ ทำให้รู้สึกปลื้มใจที่มีส่วนทำให้แม่ลูกได้พบกัน" นางสีดา กล่าว