"โลตัส"ลดขยะอาหารสด ส่งต่อสินค้าป้ายเหลืองให้ผู้ยากไร้

โดย...จะเรียม สำรวจ

วิกฤตขยะที่มาจากอาหารในประเทศไทยถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมให้กับเมืองไทยค่อนข้างมาก เพราะนอกจากจะมีปัญหาขยะอาหารที่เกิดจากภาคครัวเรือนแล้ว ยังมีปัญหาขยะที่เกิดจากภาคธุรกิจต่างๆ อีกด้วย

จากข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ปริมาณขยะมูลฝอยในประเทศไทยมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา ประชากรไทย 1 คน สามารถสร้างขยะต่อวันมากถึง 1.14 กิโลกรัม จากปริมาณขยะดังกล่าวทำให้มีขยะมูลฝอยทั้งหมด 27.06 ล้านตัน/ปี โดย 64% ของขยะมูลฝอยนี้เป็นขยะที่มาจากอาหาร

ขณะที่ปริมาณขยะมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ประเทศไทยยังไม่สามารถกำจัดขยะดังกล่าวได้ทั้งหมด โดย 42% ของขยะมูลฝอยถูกกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี นำไปสู่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามมา ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ห้างเทสโก้ โลตัส หันมาให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าว ด้วยการหันมาเปิดตัวโครงการ “กินได้ ไม่ทิ้งกัน” บริจาคอาหารสดที่จำหน่ายไม่หมดให้กับผู้ยากไร้ทุกวัน โดยเริ่มต้นจากไฮเปอร์มาร์เก็ต 23 สาขาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก่อนขยายสู่ทุกสาขาใหญ่ทั่วประเทศในอนาคต

การเปิดตัวโครงการดังกล่าว เทสโก้ โลตัส ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์จากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร (Farm to Fork) เพื่อลดการสูญเสียอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน เริ่มตั้งแต่แหล่งเพาะปลูก กระบวนการตัดแต่ง บรรจุ ไปจนถึงขนส่งจำหน่าย และบริโภค โครงการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร ช่วยให้เทสโก้ โลตัส และเกษตรกรสามารถวางแผนการเพาะปลูกร่วมกันตามความต้องการของตลาด ลดปัญหาพืชผลล้นตลาดจนกลายเป็นขยะอาหาร

ขณะเดียวกันยังได้ร่วมมือกับเกษตรกรในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญเสียระหว่างทาง และเมื่อสินค้ามาถึงร้านค้า เทสโก้ โลตัส ได้ดูแลการจัดเก็บสินค้าอาหารสดอย่างเหมาะสม เพื่อลดการสูญเสีย ณ จุดขาย

สำหรับสินค้าที่ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบแต่ยังคงรับประทานได้ จะถูกนำมาลดราคาเป็นสินค้าป้ายเหลือง โดยจะเริ่มลดราคาตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มที่ 25% ตามด้วย 50% และ 90% ในช่วงประมาณ 3 ทุ่มก่อนห้างปิด ซึ่งสินค้าทุกรายการที่นำมาลดราคาด้วยการติดป้ายเหลืองยังคงเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี สามารถนำไปรับประทานได้

แต่หากสินค้าที่นำมาติดป้ายเหลืองลดราคาแล้วยังขายไม่หมด ทางเทสโก้ โลตัส ก็จะทำการเก็บรักษาอาหารดังกล่าว ก่อนส่งต่อไปยัง Thailand Harvest ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลจากต่างประเทศ เพื่อนำอาหารดังกล่าวไปส่งต่อให้กับผู้ยากไร้ในชุมชนต่างๆ ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งก่อนที่เทสโก้ โลตัส จะมีโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น อาหารสดที่เหลือจากการขายจะถูกนำไปทำลายทั้งหมด จากแนวทางดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาขยะ จึงได้มีการถือกำเนิดโครงการ “กินได้ ไม่ทิ้งกัน” เพื่อลดปริมาณขยะอาหารสด

แนวทางดังกล่าวนอกจากจะเป็นการช่วยลดปัญหาขยะที่เกิดจากอาหารแล้ว ยังเป็นการช่วยลดค่าครองชีพของลูกค้าและประชาชนผู้มีรายได้น้อยอีกด้วย หากยังคงมีสินค้าที่จำหน่ายไม่หมดหลังจากลดราคา พนักงานของเราเทสโก้ โลตัส จะทำการคัดแยกสินค้าที่ยังคงอยู่ในสภาพดี เพื่อบริจาคให้กับมูลนิธิและองค์กรการกุศลที่เป็นพันธมิตรกับเทสโก้ เพื่อนำไปปรุงเป็นมื้ออาหารให้กับผู้ยากไร้ ส่วนสินค้าที่ไม่สามารถรับประทานได้แล้วก็จะถูกนำไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพต่อไป

จอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในทุกๆ วัน เทสโก้ โลตัส จะมีการจำหน่ายอาหารสดในปริมาณมากให้แก่ลูกค้า ซึ่งจากจำนวนอาหารสดที่ขายในปริมาณที่มากดังกล่าว ทำให้เกิดปัญหาขยะจากอาหารสด และเพื่อลดปริมาณขยะอาหารสดที่เกิดจากห้างเทสโก้ โลตัส บริษัทจึงต้องวางกระบวนการทำงานคัดแยกอาหาร เพื่อนำอาหารดีไปปรุงอาหารให้กับผู้ยากไร้ และนำอาหารที่ไม่สามารถรับประทานได้แล้วนำไปพัฒนาเป็นปุ๋ยชีวภาพ

ถึงแม้การสูญเสียและการทิ้งอาหารในธุรกิจค้าปลีกจะเป็นปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับในกระบวนการต้นน้ำที่แหล่งเพาะปลูกและปลายน้ำคือ การทิ้งอาหารของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณอาหารสดที่เทสโก้ โลตัส จำหน่าย ทำให้การลดการทิ้งอาหารในการดำเนินธุรกิจของเราเป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญ เทสโก้ โลตัส จึงตระหนักดีถึงความรับผิดชอบและบทบาทหน้าที่ในการช่วยลดปริมาณขยะที่มาจากอาหาร ด้วยการประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำลดการทิ้งอาหารที่ยังรับประทานได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ในประเทศไทย

จอห์น กล่าวต่อว่า เทสโก้ โลตัส ภูมิใจที่เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกรายแรกในประเทศไทยที่ประกาศเจตนารมณ์ในการไม่ทิ้งอาหารที่ยังรับประทานได้ เพื่อบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส ภายใต้โครงการ กินได้ ไม่ทิ้งกัน เราจะลดปริมาณขยะที่เกิดจากอาหารและสามารถช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ทั่วประเทศ ด้วยการเริ่มบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมดจากไฮเปอร์มาร์เก็ตทุกแห่งในกรุงเทพฯ จำนวนทั้ง 23 สาขา

ด้านสินค้าอาหารสดที่จำหน่ายไม่หมดเทสโก้ โลตัส เริ่มนำมาบริจาคให้กับผู้ยากไร้ไปบ้างแล้วตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย ข้าวสาร ผักสด ผลไม้สด และอาหารแห้ง ซึ่งในส่วนของสินค้าดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนเป็นมื้ออาหารให้กับผู้ด้อยโอกาสแล้วรวมเกือบ 1 ล้านมื้อ โดยในส่วนของเมนูอาหารที่ได้ทำที่ผ่านมา คือ ผัดผักบุ้ง ต้มจืดผักกาดขาว ข้าวผัด และผักผัดรวม เป็นต้น

อย่างไรก็ดี จากความหลากหลายของผู้รับอาหารสด ทำให้ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส ได้ยกเลิกการปรุงอาหารเพื่อแจกให้กับผู้ยากไร้ไป เหลือเพียงการแจกอาหารสดประเภทผักต่างๆ ให้กับผู้ยากไร้ตามชุมชนแออัด สถานสงเคราะห์ชุมชน และกลุ่มชุมชนผู้ลี้ภัยเท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคในกลุ่มดังกล่าวนำผักสดที่ได้ไปปรุงอาหารตามที่ตัวเองต้องการ

จอห์น กล่าวอีกว่า เทสโก้ โลตัส ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบของเราในการเป็นผู้นำลดปริมาณขยะที่เกิดจากอาหารและบรรเทาปัญหาผู้ยากไร้ในประเทศไทย เราขอประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำในการลดขยะจากอาหารในธุรกิจของเราเอง พร้อมรณรงค์ให้ลูกค้า เพื่อนพนักงาน และประชาชน จับจ่าย จัดการ และบริโภคอาหารอย่างรับผิดชอบ ตนเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เราจะสามารถลดผลกระทบ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากปัญหาขยะที่มาจากอาหารได้

แนวทางการทำงานดังกล่าวของห้างเทสโก้ โลตัส ในครั้งนี้ สอดคล้องกับองค์การสหประชาชาติที่กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustain able Development Goals) ข้อที่ 12 ว่าด้วยการสร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการบริโภคและผลิตที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมาย 12.3 ว่าด้วยการลดขยะเศษอาหารของโลกลงครึ่งหนึ่งในระดับค้าปลีกและผู้บริโภค และลดการสูญเสียอาหารจากกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวภายในปี พ.ศ. 2573 กลุ่มเทสโก้ โลตัส จะสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมาย 12.3 นี้ ด้วยการประกาศเจตนารมณ์ว่าจะไม่ทิ้งอาหารที่ยังรับประทานได้ในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเทสโก้ โลตัส