posttoday

ร้านส้มตำใจดีเปิดโอกาสให้ผู้พิการมีงานทำ

30 ตุลาคม 2558

ร้านส้มตำชื่อดังเมืองขอนแก่น ติดป้ายขอลูกค้าใจเย็น แต่บริการด้วยใจ หวั่นโมโหหิวเพราะพนักงานเป็นผู้พิการทางหูกว่าครึ่ง

ร้านส้มตำชื่อดังเมืองขอนแก่น ติดป้ายขอลูกค้าใจเย็น แต่บริการด้วยใจ หวั่นโมโหหิวเพราะพนักงานเสริฟเป็นผู้พิการทางหูกว่าครึ่ง

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีลูกค้าร้านส้มตำแห่งหนึ่งมีการระบุว่า พนักงานเสริฟของร้านมากกว่าครึ่งเป็นผู้พิการทางหูแต่ก็ยังคงสามารถให้บริการด้วยความคล่องตัวและสร้างบรรยากาศภายในร่านให้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและประทับใจของลูกค้าอย่างมาก
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่

ร้านทองคำตำแซบ สาขา 1 ซึ่งตั้งอยู่ ซ.หน้าเมือง 19  หรือที่คนขอนแก่นเรียกว่า คลองร่องเหมือง ด้านหลังห้างสรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ซึ่งก็พบลูกค้ามายืนรอต่อคิวเลือกซื้อส้มตำในประเภทต่างๆรวมไปถึงอาหารอีสานขึ้นชื่อหลายรายการ

ขณะที่ภายในร้านได้มีการติดป้ายไว้บริเวณผนังและตามจุดต่างๆที่สามารถสังเกตุได้ง่าย โดยในข้อความระบุว่า”ร้านนี้บริการโดยคนพิการทางหู ถึงจะพิการแต่ก็บริการด้วยใจ” เพื่อแจ้งเตือนให้กับลูกค้าได้รับทราบขณะสั่งอาหารหรือนั่งรับประทานอาหาในร้านดังกล่าว

ขณะที่จากากรสังเกตุพบว่าพนักงานในร้านส่วนใหญ่ต่างมีสีหน้าทียิ้มแย้มแจ่มใสและพยายามอ่านออกเสียงตามที่ลูกค้าขอเลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งน้ำแข็ง,สั่งอาหารหรือเรียกเก็บเงิน สร้างความประทบใจได้อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง
               
นางทองทำ  แซ่เล้า  เจ้าของร้านทองคำตำแซบ  ตั้งอยู่ภายใน  กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้พิการทางหูเป็นพนักงานในร้านส้มตำแห่งนี้ทั้งหมด3คน ทั้งหมดมีตำแหน่งเสิร์ฟอาหารและให้ริการในด้านต่างๆของทางร้าน ซึ่งจะรับผิดชอบทั้งหมด 3 โซน คือโซนด้านบน,จุดสั่งอาหารและโซนรับประทานอาหารด้านข้างร้านส่วนให้บริการปลาเผา

ทั้งนี้การรับพนักงานประจำร้ายส้มตำแห่งนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2547  เริ่มจาก น.ส.ลั่นทม  ได้เข้ามาสมัครงานที่ร้านเพื่อทำงานในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟ    จึงรับเข้าทำงานทันทีเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความสามารถพิเศษ อีกทั้งยังคงต้องกการให้ความช่วยเหลือให้มีงานทำเพื่อจำนำเงินที่ได้จากค่าจ้างนั้นไปใช้จ่ายในครอบครัวแม้จะได้รับค่าจ้างรายวันไม่มากนักก็ตาม

“เริ่มแรกป้าก็สอนงานทุกอย่างภายในร้าน  ยอมรับว่าแรกๆมีปัญหาในการสื่อสารมากพอสมควร  ต้องใช้ภาษามือในการสื่อสารเป็นหลัก   แต่หลังจากนั้นมาการสื่อสารด้วยภาษามือ  ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับทุกคนในร้าน อีกทั้งพนักงานก็เริ่มออกเสียงเพื่อพูดตามการสั่งของของลูกค้า จนสามารถสื่อสารได้บ้าง ทั้งนี้โดยส่วนตัวประทับใจในความขยัน อดทน และซื่อสัตย์ รวมทั้งยังคงมีความใฝ่รู้ของพนักงานในร้านในการที่จะช่วยจัดเตรียมอาหารหรือปรุงอาหารในบางเมนู อีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้จะเป็นผู้พิการทางหู  แต่มีใจรักในงานบริการเป็นอย่างมาก ทางร้านจึงเปิดโอกาสในการรับสมัครคนพิการทางหูเพิ่มเติมเพื่อมาร่วมงานกับทางร้านตามสัดส่วนการขยายตัวของร้านจนวันนี้มีพนักงานพิการทางหูทำงานเป็นพนักงานประจำกับเรา 3 คนแล้ว”

ขณะที่ น.ส.ลั่นทม ดอนสินธุ์ พนักงานในร้าน ซึ่งสามารถพูดและเขียนได้ บอกกกับทีมข่าวว่า ได้ตัดสินใจเข้ามาสมัครงานที่ร้านส้มตำแห่งนี้เพื่อต้องการมีอาชีพในการเลี้ยงดูตัวเอง โดยไม่ต้องไปเป็นภาระใคร  อีกทั้งโดยส่วนตัวมีใจรักงานบริการ  และไม่อายหรือย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาใดๆ ทั้งนี้ที่ผ่านมาหลายคนจะมองแต่เพียงว่าเป็นคนพิการจะทำอะไรไม่ได้ แต่ตนเองจะแสดงให้กับทุกคนเห็นว่าแม้ร่างกายจะพิการแต่หัวใจไม่พิการประกอบกับความโชคดีที่ร้านส้มตำแห่งนี้ซึ่งเป็นร้านส้มตำชื่อดังของเมืองขอนแก่น ที่คนในร้านอยู่กนแบบครอบครับ รักใคร่กัน และไม่รังเกียจคนพิการในการที่จะเข้ารับมาร่วมงานซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนพิการอย่างมากเลยที่เดียว

อีกทั้งจากการที่ได้ให้บริการและพยายามที่จะสื่อสารและพูดคุยกับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่ที่มารับประทานส้มตำที่ร้านแห่งนี้นั้นเป็นลูกค้าประจำ   ซึ่งส่วนใหญ่ทราบดีว่าพนักงานทีให้บริการนั้นพิการทางหูก็มักจะใช้ภาษามือในการสั่งอาหารและสื่อสารร่วมกัน แม้จะถูกบ้างและผิดบ้างส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันซึ่งถือเป็นการสร้างรอยยิ้มและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย