posttoday

"ไม่สายที่จะกลับตัวเป็นคนดี" ชีวิตใหม่ของหนุ่มนักแกะสลักรองเท้าแตะ

26 สิงหาคม 2558

จากอดีตนักโทษคดียาเสพติดสู่มือแกะสลักรองเท้าแตะเบสเซลเลอร์

เรื่อง...ศศิธร จำปาเทศ / ภาพ...อัสวิน ภักฆวรรณ

“ไม่สายที่จะกลับตัวเป็นคนดี เราทำดีได้โดยไม่ให้ใครเดือดร้อน และสักวันความดีที่เราทำ คนจะเห็นเองโดยที่ไม่ต้องป่าวประกาศ"

คำพูดที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจของ เดียว-สิทธิศักดิ์ ตนานุสรณ์ หนุ่มพัทลุงวัย 21 ปี ผู้กำลังโด่งดังเป็นพลุแตก หลังจากผลงานแกะสลัก"รองเท้าแตะช้างดาว"เป็นลายฉลุสละสลวยงดงามของเขา ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกโซเชียล

รองเท้าแตะช้างดาว หูคีบ หรืออีหนีบ ที่ใครๆนิยมเรียกเป็นรองเท้ายอดฮิตของชาวบ้านชาวช่องมาหลายชั่วอายุคน เพราะราคาถูก ใส่สบาย แต่ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้มันกลับได้รับความสนใจอย่างล้นหลามอีกครั้ง ด้วยไอเดียอันบรรเจิดของอดีตนักโทษ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งสังคมไม่ยอมรับ

"ผมเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางพัทลุง 3 ปีข้อหายาเสพติด ลึกๆในใจก็หวังว่าจะออกมาใช้ชีวิตปกติ ทำมาหากินสุจริตเหมือนคนทั่วไป แต่ไม่มีที่ไหนรับ เพราะมองว่าเป็นคนประวัติไม่ดี เคยติดยา เคยติดคุกติดตะรางมาก่อน ขณะกำลังมืดแปดด้าน พ่อผมก็ให้กำลังใจ และถามว่า เราได้อะไรมาจากในเรือนจำบ้าง ผมเลยคิดถึงสมัยอยู่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังรุ่นพี่คนหนึ่งได้ชักชวนให้เรียนงานฝีมือแกะสลักรองเท้าขาย เพื่อหาเลี้ยงตัวเอง เพราะนักโทษหลายคนฐานะยากจน ทางบ้านไม่ได้ส่งเงินมาให้ใช้เหมือนคนอื่นๆ ผมก็เลยหัดลองทำดู ผู้คุมก็สนับสนุน การแกะสลักรองเท้ามีมานานแล้วนะครับ เพียงแต่ไม่มีใครนำเสนอเป็นข่าว"

"ไม่สายที่จะกลับตัวเป็นคนดี" ชีวิตใหม่ของหนุ่มนักแกะสลักรองเท้าแตะ

อดีตนักโทษผู้ผันตัวมาเป็นนักแกะสลักรองเท้าแตะ เล่าว่า วิธีแกะสลักรองเท้าแตะใช้อุปกรณ์ไม่มาก เพียงใบมีดโกนกับไม้ไผ่เหลาแหลมเป็นด้ามมาทำเป็นเครื่องมือแกะสลัก ส่วนเลือกรองเท้าแตะช้างดาว เพราะมีพื้นสีขาวและทน ลวดลายฉลุที่ต้องการจะแกะจะร่างจากกระดาษก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นลายดอกไม้ ลายการ์ตูน หรือไม่ก็แกะตามออเดอร์ลูกค้า ยกเว้นลายไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าลายไทยไม่ควรจะอยู่บนพื้นรองเท้า

สองมือค่อยๆบรรจงแกะสลักอย่างประณีต ขึ้นรูป ตกแต่ง เก็บรายละเอียด จนพื้นสีขาวสะอาดกลายเป็นลวดลายฉลุสละสลวย

ทำได้เพียงไม่กี่คู่ คุณพ่อของเขา หิรัณย์ ตนานุสรณ์ นึกอยากช่วยลูกชายขายผลงาน จึงถ่ายรูปสินค้าโพสต์ลงเฟซบุ๊ก พร้อมเบอร์โทร ปรากฎว่าเพียงชั่วข้ามคืน มีผู้สนใจกดไลค์นับแสน ที่สำคัญมีโทรศัพท์เข้ามาไม่ขาดสายเพื่อสั่งจอง เรียกว่ายังไม่ทันจะนำไปวางขายตามตลาดนัดดังที่ตั้งใจไว้ ยอดจองก็ทะลุไปไกลเกินฝันแล้ว

เดียวบอกด้วยน้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย แต่แววตาเปี่ยมด้วยความดีใจว่า ทุกวันนี้ต้องตื่นมาแกะสลักรองเท้าตั้งแต่หกโมงครึ่งยันตีสองของอีกวัน ทำแทบไม่ทันความต้องการของลูกค้า

"ปกติส่งขายคู่ละ 300 บาททุกไซซ์รวมค่าส่ง แต่หากลูกค้ามารับถึงที่ขายคู่ละ 200 บาท ตอนนี้ยอดสั่งจองทะลุพันคู่แล้ว แต่ฐานะผมไม่ดีเลยต้องขอให้ลูกค้าโอนเงินมาก่อน เพื่อเป็นทุนที่จะซื้อรองเท้าจากตลาดใกล้บ้านราคาคู่ละ 100 บาท แผนคร่าวๆที่คิดไว้ตอนนี้คือ จะหาพรรคพวกนักโทษมาช่วยกันผลิต อนาคตใครอยากจะเรียน ก็ยินดีถ่ายทอดฝีมือให้ครับ"หนุ่มพัทลุงยิ้มกว้าง 

ผมไม่ได้หวังให้มียอดขายเยอะๆ ไม่ได้คิดว่าขายรองเท้า แต่คิดว่ากำลังขายงานศิลปะ แต่ละคู่เกิดจากจินตนาการ ในหัว ในความคิดที่อยากจะสร้างสรรค์ออกมา รองเท้าทุกคู่จึงมีลายไม่ซ้ำกัน เรียกว่า งานศิลปะที่มีชีวิต อยากให้คนที่ซื้อเห็นคุณค่าของผลงาน ที่สำคัญเห็นคุณค่าของคน และให้โอกาสผมอีกครั้ง อย่าปิดกั้นคนที่เคยติดคุกหรือติดยาเสพติดเลย เพราะประเทศเรามีคนอีกมากมายที่เคยติดคุก เขาก็ต้องการโอกาสจากสังคม ไม่มีใครอยากกลับไปเป็นคนไม่ดีหรอก นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของผม

"ไม่สายที่จะกลับตัวเป็นคนดี" ชีวิตใหม่ของหนุ่มนักแกะสลักรองเท้าแตะ

ทุกวันนี้ เดียวอาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีลูกสาวตัวน้อยวัย 2 ขวบเป็นยาชูกำลัง เป็นแรงผลักดันให้สู้ชีวิต เดียวยืนยันว่าไม่หวังร่ำรวย ขอแค่มีเงินส่งลูกเรียนหนังสือและช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านเท่านั้น

ยังไม่สายที่เราจะกลับตัวเป็นคนดี เราทำดีได้โดยไม่ให้ใครเดือดร้อน และสักวันความดีที่เราทำ คนจะเห็นเองโดยที่ไม่ต้องประกาศว่าทำความดี และเมื่อวันนี้ผมได้รับการสนับสนุน ผมก็มีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไป ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน ไม่ทำสิ่งผิดกฎหมายเหมือนอดีตที่ผ่านมา

เรื่องราวของอดีตนักโทษคดียาเสพติด ผู้หันหลังให้กับความผิดพลาดในอดีต วันนี้กลายมาเป็นนักแกะสลักรองเท้าแตะ ภายใต้ความหวังว่าชีวิตของเขาจะเป็นแบบอย่างให้คนอื่นๆต่อไป 

หมายเหตุ- สนใจติดต่อได้ที่เดียว-สิทธิศักดิ์ ตนานุสรณ์ 086-9575311