posttoday

อานิสงส์วายุภักษ์ยอดนำส่งรัฐวิสาหกิจสูงลิ่ว

09 เมษายน 2554

สคร.เผยรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้าแผ่นดินกระฉูดเกินเป้า 170%กองทุนวายุภักษ์-สำนักงานสลากฯ นำลิ่ว          นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยว่า ในเดือน มี.ค. รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นน้อยกว่า 50% นำส่งรายได้สูงถึง 3,045.41 ล้านบาท โดยสูงกว่าประมาณการถึง 1,224.56 ล้านบาท หรือคิดเป็น 167.25% จากที่มีการประมาณการไว้ 1,820.85 ล้านบาท จนส่งผลให้การนำส่งรายได้สะสมเข้าแผ่นดินตั้งแต่เดือน ต.ค. 2553 ถึงเดือน มี.ค. 2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 4.23 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7,851.75 ล้านบาท จากที่ประมาณไว้แค่ 3.45 หมื่นล้านบาท          นายสมชัย กล่าวว่า ยอดการนำส่งรายได้ในเดือน มี.ค. ที่สูงขึ้นเพราะกองทุนรวมวายุภักษ์นำส่งรายได้จากเงินปันผลถึง1,550 ล้านบาท จากที่ประมาณการไว้แค่450 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล1,333.31 ล้านบาท การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 137 ล้านบาท          สำหรับงวดป

สคร.เผยรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้าแผ่นดินกระฉูดเกินเป้า 170%กองทุนวายุภักษ์-สำนักงานสลากฯ นำลิ่ว
         
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยว่า ในเดือน มี.ค. รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นน้อยกว่า 50% นำส่งรายได้สูงถึง 3,045.41 ล้านบาท โดยสูงกว่าประมาณการถึง 1,224.56 ล้านบาท หรือคิดเป็น 167.25% จากที่มีการประมาณการไว้ 1,820.85 ล้านบาท จนส่งผลให้การนำส่งรายได้สะสมเข้าแผ่นดินตั้งแต่เดือน ต.ค. 2553 ถึงเดือน มี.ค. 2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 4.23 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7,851.75 ล้านบาท จากที่ประมาณไว้แค่ 3.45 หมื่นล้านบาท
         
นายสมชัย กล่าวว่า ยอดการนำส่งรายได้ในเดือน มี.ค. ที่สูงขึ้นเพราะกองทุนรวมวายุภักษ์นำส่งรายได้จากเงินปันผลถึง1,550 ล้านบาท จากที่ประมาณการไว้แค่450 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล1,333.31 ล้านบาท การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 137 ล้านบาท
         
สำหรับงวดปี 2553 รัฐวิสาหกิจใน 10 อันดับ ปรากฏว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนำส่งทั้งสิ้น 1.89 หมื่นล้านบาทสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 1.42 หมื่นล้านบาท บริษัท ปตท. นำส่ง 1.35 หมื่นล้านบาท ธนาคารออมสิน 6,816 ล้านบาท บริษัทกสท โทรคมนาคม 6,158 ล้านบาท

บริษัท ทีโอที 6,015 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 5,192 ล้านบาท โรงงานยาสูบ4,619 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง 4,278 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2,250 ล้านบาท

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า สคร.กำลังปรับปรุงการบริหารหลักทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพจะส่งผลให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และนำมาช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้ซึ่งขณะนี้ สคร.อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารหลักทรัพย์ให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น โดยจะปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งหากแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มความคล่องตัวและสร้างมูลค่าเพิ่มในการบริหารหลักทรัพย์ของรัฐให้มีมูลค่าต่อไป

สำหรับปี 2553 ในภาพรวมรัฐวิสาหกิจมีรายได้ลดลงและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น รัฐวิสาหกิจทำรายได้รวมกันทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1.73 แสนล้านบาทและมีความสามารถในการทำกำไร 5.48%รัฐวิสาหกิจในสาขาสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีรายได้รวม 2 แสนล้านบาท มีกำไรสุทธิ4 หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐวิสาหกิจกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินมีรายได้ถึง 2.96 ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1.3 แสนล้านบาท.