เพิ่มกำลังตำรวจรับมือม็อบแดง
วางกำลัง 26 กองร้อยรับมือ จับตาแกนนำขึ้นเวทีปราศรัย หวั่นขัดเงื่อนไขประกันตัว
วางกำลัง 26 กองร้อยรับมือ จับตาแกนนำขึ้นเวทีปราศรัย หวั่นขัดเงื่อนไขประกันตัว
เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรววจแห่งชาติ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเป็นการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีการรวมพลประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ามาด้วยว่า ทางตำรวจได้ตั้งศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวตั้งแต่เวลา 24.00น. ของวันที่ 12 มี.ค. และใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 26 กองร้อย ซึ่งเพิ่มเติมจากปกติอีก 6 กองร้อย ซึ่งนำมาจาก บช.ภ. 1,2 และ7 โดยทั้งหมดจะกระจากกำลังดูแลพื้นที่รอบอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และพื้นที่รอบการชุมนุมกลุ่มพธม. ยืนยันว่า เจ้าหน้าหน่วยควบคุมฝูงชนไม่มีอาวุธ มีเพียงแต่อุปกรณ์ป้องกันตัวเช่นโล่ สนับแข้งและสนับขา สำหรับการชุมนุมที่อาจจะขยายพื้นที่ออกไป จะมีตำรวจจราจร สายสืบ คอยดูแล พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจรทราบ ดูแลความปลอดภัยและเหตุกระทบกระทั่งต่าง ๆ
เมื่อถามว่า การชุมนุมในวันดังกล่าวจะการตรวจสอบการปราศรัยของแกนนำที่ได้รับการประกันตัวออกมาว่าอาจจะขัดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากแกนนำคนเสื้อแดงได้รับการประกันตัวออกมา ก็ไม่มีพฤติกรรมที่จะส่อไปในทางรุนแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงจับตาดูอยู่
เมื่อถามว่า มีการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มพธม.ก่อนงานกาชาดจะเริ่มวันที่ 30มี.ค. นี่หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า สำหรับงานกาชาดที่จะมีขึ้น เราจะให้เวลาเจ้าหน้าทีในการจับซุ้มและร้านค้า ซึ่งคงต้องใช้เวลาก่อนงานจะเริ่ม2สัปดาห์ ส่วนกรณีที่กลุ่มพธม. กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท ในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มพธม.นั้น ขอยืนยันว่างบที่ได้มาทั้งหมดเป็นงบประมาณที่ให้เบี้ยเลี้ยงตำรวจวันละ 400 บาท เท่านั้น ซึ่งคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณมากขนาดนั้น