posttoday

หมดสิ้นทุกสิ่งอัน อมตธรรมยั่งยืนยง

06 มีนาคม 2554

เมื่อเวลา 17.05 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ไปยังเมรุชั่วคราววัดป่าเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเข้าพลับพลา ประทับพระราชอาสน์ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุ ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร ที่จิตกาธาน รอบโกฐ พระสงฆ์ 10 รูป บังสุกุล ประกอบด้วย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์ สมเด็จพระมหามุนี วัดราชบพิธ พระธรรมวรภรณ์ วัดเครือวัลย์ พระธรรมเจติจารย์ วัดศรีมหาธาตุ พระธรรมบัณฑิต วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก พระธรรมดิลก วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น และพระญาณสิทธาจารย์ วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ฯลฯ เสร็จแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จฯ ลงจากเมรุ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกฐ ทรงหยิบธูปเทียน ดอกไม้จันทน์ จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่ตำรวจวังชูถวาย พระราชทานเพลิง ซึ่งมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่จำนวน 39 รูป พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และประชาชนจากทั่วทุกสารทิศมาร่วมงานอย่า

เมื่อเวลา 17.05 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ไปยังเมรุชั่วคราววัดป่าเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเข้าพลับพลา ประทับพระราชอาสน์ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุ ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร ที่จิตกาธาน รอบโกฐ พระสงฆ์ 10 รูป บังสุกุล ประกอบด้วย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์ สมเด็จพระมหามุนี วัดราชบพิธ พระธรรมวรภรณ์ วัดเครือวัลย์ พระธรรมเจติจารย์ วัดศรีมหาธาตุ พระธรรมบัณฑิต วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก พระธรรมดิลก วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น และพระญาณสิทธาจารย์ วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ฯลฯ เสร็จแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จฯ ลงจากเมรุ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกฐ ทรงหยิบธูปเทียน ดอกไม้จันทน์ จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่ตำรวจวังชูถวาย พระราชทานเพลิง ซึ่งมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่จำนวน 39 รูป พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และประชาชนจากทั่วทุกสารทิศมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น

 

หมดสิ้นทุกสิ่งอัน อมตธรรมยั่งยืนยง

โดยมีบุคคลสำคัญ อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และประชาชนที่เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯและร่วมพิธีจนเต็มบริเวณวัด

อย่างไรก็ตาม แม้พิธีพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นไปแล้ว ยังมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่นอนพักค้างคืนทั้งภายในและด้านนอกวัดป่าบ้านตาด ด้วยการกางเต็นท์หรือปูเสื่อ บ้างนอนในรถยนต์ เพื่อต้องการรอทำบุญตักบาตรและร่วมพิธีสามหาบ หรือพิธีเก็บอัฐิอังคารหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในเช้าวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) ขณะที่ที่พักโรงแรมทุกประเภทในตัวเมืองอุดรธานีถูกจองจนเต็มไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้อัฐิอังคารของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ภายหลังเพลิงมอดสนิท ทางคณะสงฆ์จะจัดเก็บอัฐิอังคารขององค์หลวงตาทันที โดยจะนำไปบรรจุในหีบเหล็กแล้วล็อคด้วยกุญแจ 8 ดอก ซึ่งการจัดแบ่งอัฐิอังคารหลวงตาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือการคัดสรรอัฐิอังคารขององค์หลวงตาส่วนที่สมบูรณ์และสวยที่สุดบรรจุไว้ในผอบทองคำหนัก 1 กิโลกรัม เพื่อเตรียมไว้บรรจุในเจดีย์ที่อาจจะมีการจัดสร้างขึ้นในอนาคต ให้ญาติธรรมประชาชนได้กราบสักการะรำลึกถึงพระคุณขององค์หลวงตา ซึ่งผอบที่ทำด้วยทองคำดังกล่าวทางลูกศิษย์ลูกหาขององค์หลวงตาเป็นผู้จัดทำขึ้นด้วยความศรัทธา

สำหรับอัฐิอังคารอีกส่วนที่เหลือ จะแบ่งมอบให้กับวัดป่าต่างๆ ทั่วประเทศที่พระลูกศิษย์หลวงตาไปปกครอง หรือวัดป่าที่องค์หลวงตามหาบัว เคยไปตั้งกองทุนผ้าป่าทองคำช่วยชาติไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งวัดป่าต่างๆ เหล่านี้ ก็จะนำอัฐิอังคารหลวงตาไปจัดเก็บด้วยรูปแบบใดก็ตาม เพื่อให้ญาติธรรมในพื้นที่นั้นๆ ได้สักการะบูชาและรำลึกถึงคำเทศนาสั่งสอนของท่าน