posttoday

สปส.ยอมอ่อนชงสภาแก้กม.

04 มีนาคม 2554

หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดผิดห่วงรัฐบาลเพิ่มงบแบกภาระ

หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดผิดห่วงรัฐบาลเพิ่มงบแบกภาระ

“ปั้น” พร้อมเสนอสภาแก้ พ.ร.บ.ประกันสังคม หากศาลรัฐธรรมนูญฟันธงขัดรัฐธรรมนูญ

นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจ่ายเงินสมทบในระบบประกันสังคม ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 เพราะให้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเพื่อรักษาพยาบาลตัวเอง ก็คงต้องเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะแก้อย่างไร และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อการบริหาร สปส. เนื่องจากปัจจุบันมีเงินเข้ากองทุนเท่ากับที่ต้องจ่ายออกไป และอนาคตคาดว่าจะมีเงินเข้ามาน้อยกว่าเงินออก เพราะผู้ประกันตนชราภาพมากขึ้น

นายปั้น กล่าวว่า สปส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณภาพการรักษาพยาบาล เพราะผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมใช้สถานพยาบาล บุคลากร อุปกรณ์เดียวกันกับผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) และยืนยันว่า สปส.จ่ายเงินเหมาจ่ายรายหัวต่อปีให้มากกว่าบัตรทองแน่นอน คาดว่าคุณภาพขึ้นอยู่กับหน่วยบริการที่ให้บริการมากกว่า

นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ สปส. กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิดจริงก็คงไม่กระทบต่อกระทรวงแรงงาน แต่จะกระทบกับรัฐบาลในเรื่องงบประมาณ เพราะรัฐต้องหามาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป

นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า พ.ร.บ.ประกันสังคมเกิดขึ้นปี 2533 ขณะที่ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2550 จึงยากที่จะบอกว่าใครถูกใครผิด ส่วนที่จะให้ผู้ประกันตนไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลของบัตรทองจะทำให้ยากต่อการบริหาร วิธีแก้คือทำให้สิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกันที่สุด

นพ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า สปส.ไม่สามารถให้ยาต้านไวรัสอะทาซานาเวียร์ตามที่เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทยเรียกร้องได้ เนื่องจากเป็นยาแรง มีผลข้างเคียง และมีราคาแพง ซึ่งตามหลักการผู้ป่วยต้องรับยาพื้นฐานก่อน หากดื้อยาจึงค่อยเพิ่มขนาด

“หากใช้ยาแรงกันทุกคน จะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของกองทุน” นพ.สมเกียรติ กล่าว