posttoday

จุรินทร์ชงร่างกม.เครื่องสำอางฉบับใหม่

27 กุมภาพันธ์ 2554

รมว.สธ.ลงนามเสนอร่างพ.ร.บ.เครื่องสำอางฉบับใหม่ เน้นเพิ่มความคุ้มครองผู้บริโภค หนุนอุตสากรรมความสวยงามแข่งขันตลาดโลก     นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามหนังสือเสนอร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา

รมว.สธ.ลงนามเสนอร่างพ.ร.บ.เครื่องสำอางฉบับใหม่ เน้นเพิ่มความคุ้มครองผู้บริโภค หนุนอุตสากรรมความสวยงามแข่งขันตลาดโลก
    
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามหนังสือเสนอร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการเครื่องสำอาง และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเทศไทยได้ใช้พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 จนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 17 ปี บทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ กลไกการผลิต เทคโนโลยีและการแข่งขันทางการค้า จึงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัย และสอดรับการเขตการค้าเสรีอาเซียน

"ร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอางฉบับใหม่นี้ นอกจากจะสามารถคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ขณะเดียวกันก็สนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย ให้มีศักยภาพในระดับสากล สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ขณะนี้มีผู้ประกอบธุรกิจเครื่องสำอางจำนวนมาก ยื่นขอจดทะเบียนที่ อย.ประมาณ 40,000 เรื่อง" โฆษก สธ.กล่าว
        
ทั้งนี้ ในร่างกฎหมายเครื่องสำอางฉบับใหม่ ได้ปรับปรุงสาระสำคัญเช่น 1.ปรับนิยามเครื่องสำอางให้มีความชัดเจนครอบคลุมตามหลักสากลและเพิ่มเติมนิยามศัพท์ ได้แก่ สารสำคัญ ผู้รับจดแจ้ง ผู้ประกอบธุรกิจ ข้อความ โฆษณา สื่อโฆษณา หน่วยงานของรัฐ ด่านอาหารและยา

2.เพิ่มมาตรการกำกับดูแลเครื่องสำอาง โดยกำหนดให้ผู้ประสงค์จะผลิตเพื่อขาย หรือนำเข้าเพื่อขายเครื่องสำอางทุกประเภท ต้องแจ้งรายละเอียดของเครื่องสำอางต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนผลิต/นำเข้า ปรับจากเดิมที่เครื่องสำอางบางประเภทเท่านั้นที่ต้องขึ้นทะเบียนตำรับและบางประเภทต้องจดแจ้ง
         
3.เพิ่มมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภค โดยปรับเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับภาชนะบรรจุหลักเกณฑ์วิธีการผลิต วิธีการนำเข้าหรือวิธีการเก็บรักษา วิธีการรายงานอาการที่ไม่พึงประสงค์ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งผู้ผลิตหรือนำเข้า เพื่อขาย ต้องจัดให้มีไว้เพื่อการตรวจสอบ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภค

4.ปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการโฆษณา กำหนดให้การโฆษณาเครื่องสำอาง จะต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
         
5.ปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อหรือส่งเสริมการส่งออก และเพิ่มโอกาสให้องค์กร ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำกับดูแลมากขึ้น โดยมีทั้งหมด 10 หมวด 85 มาตรา มีบทลงโทษเช่น กรณีขายเครื่องสำอางโดยไม่มีฉลากภาษาไทย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท เป็นต้น