posttoday

คลังการันตีงบกลางปีไม่เป็นหนี้เพิ่ม

14 มกราคม 2554

 “กรณ์” ล้อมกรอบตั้งงบกลางไม่เกินรายได้เกินเป้า หลังทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยถล่มผิดวินัยการคลัง

 “กรณ์” ล้อมกรอบตั้งงบกลางไม่เกินรายได้เกินเป้า หลังทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยถล่มผิดวินัยการคลัง

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า การจัดทำงบประมาณกลางปี 2554 จะยึดตามรายได้ที่จัดเก็บได้เกินเป้าหมายเป็นหลัก เช่น หากปีนี้เก็บรายได้เกินเป้า 1 แสนล้านบาท ก็จะไม่ตั้งงบกลางปีสูงกว่านี้ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่รัฐบาลจะกู้เงินเพิ่มอย่างแน่นอน

สำหรับเหตุผลในการตั้งงบกลางปีมี 2 เรื่องหลัก คือฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัยในช่วงที่ผ่านมา อีกส่วนคือการชดเชยเงินคงคลังที่นำมาใช้ก่อนหน้านี้ ไม่ให้กลายเป็นภาระของรัฐบาลที่จะเข้ามาใช้งบประมาณปี 2555 ซึ่งจะช่วยลดสัดส่วนงบประมาณขาดดุลได้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า งบประมาณกลางปี 2554 ที่ 1 แสนล้านบาท เป็นเม็ดเงินที่นำไปใช้จริงเพียง 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 กำหนดว่า การตั้งงบประมาณกลางปีจะต้องมีการชดใช้เงินคงคลังก่อน ซึ่งในปีนี้รัฐบาลใช้เงินคงคลังไปแล้วถึง 8.5 หมื่นล้านบาท และยังไม่มีการใช้คืน ส่วนที่ใช้คืนก่อนหน้านี้เป็นการใช้คืนเงินคงคลังที่ใช้ในปีงบประมาณ 2553

นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) การจัดทำงบประมาณกลางปีเพิ่มเติม จะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังมีเม็ดเงินจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าประมาณการ เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายอีกมาก รวมถึงการลงทุนร่วมกับเอกชน (พีพีพี) ทำให้มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวได้สูงมากขึ้น เกือบ 5% จากที่คาดไว้ 45%

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกงบกลางปีแสนล้านบาทอาจนำประเทศไปสู่การเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก อีกทั้งยังผิดวินัยการเงินการคลังอย่างร้ายแรง เพราะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งปรับดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ แต่รัฐบาลกลับจะคิดอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะทำให้เกิดเงินเฟ้อมากขึ้น

สำหรับที่อ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวไว้ว่าจะใช้วิธีเรียกงบประมาณคืนจากโครงการไทยเข้มแข็งที่ยังเหลืออยู่ “อยากเตือนรัฐบาลว่าอย่าเพียงหวังที่จะหาเสียงอย่างเดียว โดยนำความมั่นคงทางการคลังของประเทศมาเสี่ยงเลย”นายพิชัยระบุ

อย่างไรก็ตาม นายพิชัย กล่าวต่อว่า ตนอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า เพิ่มเติมจากนโยบายประชาวิวัฒน์ 9 ข้อ ที่เพิ่งจะออกมาถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวสูง และอาจจะหวังว่าจะนำเงินกระตุ้นกลางปีนี้มาซื้อใจพรรคร่วมในการแก้รัฐธรรมนูญ และเบี่ยงเบนประเด็นเรื่องอื่น ทั้งนี้เมื่อมองย้อนไปในอดีต การออกงบกลางปีในคราวที่แล้ว รัฐบาลพลังประชาชนเป็นผู้ทำไว้เอง โดยมีจุดประสงค์จะกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยเศรษฐกิจของโลก ซึ่งตอนนั้นเศรษฐกิจแย่ ถึงทำโดยหวังอัดฉีดเข้าถึงประชาชนในโครงการ SME , SML แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล กลับเปลี่ยนวิธีการใช้ ไปแจกเงิน 2,000 บาท ไปเปลี่ยนเป็นโครงการชุมชนพอเพียงที่มีการทุจริตมโหฬาร และเรื่องการศึกษาซึ่งไม่ได้ผลในทันที ซึ่งทำให้การกระตุ้นล้มเหลว จะเห็นได้ว่า จากอดีตที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จและถูกใจประชาชนได้เลย ทั้งๆ ที่จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว โดยมีหนี้เพิ่มขึ้นถึง 8 แสนล้านแล้ว ยังไม่นับอีก 4 แสนล้านในปีนี้ จึ