posttoday

นำผู้นำสตรีทั่วโลกร่วมเป็นภาคีเครือหยุดความรุนแรงเด็ก-สตรี

26 มิถุนายน 2565

ปลัดมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยจับมือภาคีเครือข่ายผู้นำสตรีไทยร่วมจัดกิจกรรมส่งท้ายการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2565 ผ่านกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และความรุนแรงต่อเด็กและสตรี 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายผู้นำสตรีของประเทศไทย อาทิ นายสุริยน ศรีอรทัยกุล รองประธานมูลนิธิเซฟการ์ดคิดส์ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมจัดกิจกรรมพิเศษ หัวข้อ Stop Global Trafficking of Children and Women ในพิธีปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก (Global Summit of Women) ประจำปี 2565 ซึ่งมีผู้นำสตรีจาก 52 ประเทศร่วมพิธี โดยมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการบริหาร บริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เป็นประธานกรรมการจัดงานของประเทศไทย และ ไอรีน นาทิแดท เป็นประธานจัดการประชุมสุดยอดสตรีโลก ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมที่มีความซับซ้อน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงของโลก โดยรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญและสร้างความตระหนักถึงภัยอันตรายของการค้ามนุษย์ โดยได้ประกาศให้การป้องกันและการปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา มีการดำเนินงานที่ความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ด้านความมั่นคงที่มีเป้าหมายให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข โดยมีกลไกในการบริหารจัดการภัยคุกคามทุกรูปแบบในทุกมิติแบบองค์รวม ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ รวมทั้งมีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ระยะ 20 ปี ครอบคลุมทั้ง 1.ด้านพัฒนากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลื่อน ด้วยการส่งเสริมกลไกทุกระดับ ส่งเสริมบทบาทศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด

นำผู้นำสตรีทั่วโลกร่วมเป็นภาคีเครือหยุดความรุนแรงเด็ก-สตรี

2.ด้านการดำเนินคดี ด้วยการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เพื่อสร้างความปลอดภัยในสังคม โดยพนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้กำหนดให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายสืบสวน จับกุม ปราบปราม ผู้กระทำความผิดอาญาถึงความผิดฐานค้ามนุษย์ 3.ด้านคุ้มครองช่วยเหลือ ผ่านกลไกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสหวิชาชีพ 4.ด้านป้องกัน ลดปัจจัยเสี่ยง สร้างความรับรู้เข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายที่อาจตกเป็นเหยื่อ และ 5.ด้านพัฒนาความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งการดำเนินงานด้านสื่อสารสังคม ผ่านรูปแบบการรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญพร้อมทั้งร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันและปราบปราม ซึ่งทำให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ขับเคลื่อนนโยบาย แผนงาน และกลไกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ด้วยการบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งมิติด้านการป้องกัน การช่วยเหลือ และการคุ้มครอง พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบพัฒนาศักยภาพและความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ

นำผู้นำสตรีทั่วโลกร่วมเป็นภาคีเครือหยุดความรุนแรงเด็ก-สตรี

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผู้นำสตรีทั่วโลก และภาคีเครือข่ายผู้นำสตรีไทย ได้ร่วมกันระดมความคิดเห็นในหัวข้อต่าง ๆ ได้ใช้เวลาร่วมกัน เป็นเหมือนครอบครัวสตรีโลก ทำให้ผู้เข้าร่วมงานการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก (Global Summit of Women) ประจำปี 2565 ได้เรียนรู้มากมายจากสิ่งเหล่านี้ ทั้งการแบ่งปันความรัก แบ่งปันประสบการณ์และความสำเร็จในการขับเคลื่อนงานในฐานะผู้นำสตรีของแต่ละประเทศ ในช่วงท้ายของการประชุมครั้งนี้ ภาคีเครือข่ายผู้นำสตรีไทย ได้เล็งเห็นว่า “ปัญหาการค้ามนุษย์และการยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” โดยประเทศไทยได้ดำเนินการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยกลไก 5P ได้แก่ 1.นโยบาย (Policy) 2.การป้องกัน (Prosecution) 3.การดำเนินคดี (Prevention) 4.การคุ้มครอง (Protection) และ 5.เครือข่ายและพันธมิตร (Partnerships) และเรื่องดังกล่าวถือเป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่ผู้นำสตรีทุกคนต้องประสานพลัง เชื่อมต่อความสัมพันธ์ทุกคนด้วยมือและหัวใจ และทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อช่วยหยุดการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้าเด็ก รวมถึงความรุนแรงทุกรูปแบบในทั่วโลกเพราะพวกเขาคือ “อนาคตของเรา” และพวกเราทุกคนขอร่วมให้คำมั่นสัญญาว่าจะป้องกันปกป้องลูกหลานของเราและหยุดความรุนแรง และการค้าเด็กและสตรีให้หมดไปจากโลกของเราอย่างยั่งยืนในเร็ววัน

ด้านนายสุริยน ศรีอรทัยกุล รองประธานมูลนิธิเซฟการ์ดคิดส์ กล่าวว่า ในปัจจุบัน สภาพสังคมได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบที่ส่งผลต่อการค้าเด็กและความรุนแรงต่อเด็กผ่านโลกไร้พรมแดน นั่นคือ อินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้กระทำผิดไม่จำเป็นต้องอยู่ห้องเดียวกับเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ ผ่านโลกออนไลน์และโน้มน้าวให้เด็กแบ่งปัน ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่ไม่เหมาะสมของตัวเอง ซึ่งผู้กระทำความผิดอาจเป็นญาติสนิทของเด็กหรือเพื่อนบ้าน พี่เลี้ยง จนทำให้เกิด “จำนวนเด็กเปราะบางทางออนไลน์” เพิ่มขึ้น จึงถึงเวลาแล้วที่ผู้นำสตรีทั่วโลกจะได้ลุกขึ้นมาตอบโต้ด้วยการส่งเสริมการป้องกันการค้าเด็กและยุติความรุนแรงต่อเด็กโดยใช้เทคโนโลยีและธุรกิจในการจรรโลงสร้างสังคมให้ตระหนักถึงอันตรายที่เกิดจากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ บูรณาการมาตรการความปลอดภัยของเด็กเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน/ท้องถิ่น สนับสนุนนโยบายและองค์กรคุ้มครองเด็ก ส่งเสริมการเรียนรู้ทางดิจิทัลและการศึกษาทางออนไลน์ที่ปลอดภัย

นำผู้นำสตรีทั่วโลกร่วมเป็นภาคีเครือหยุดความรุนแรงเด็ก-สตรี

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายการประชุม นำผู้นำสตรีทั่วโลก ร่วมขับร้องบทเพลง I Am Woman โดยได้รับเกียรติจาก นางนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้นำขับร้อง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกาศความร่วมมือของผู้นำสตรีในการเป็นเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าเด็กและสตรี และความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทั่วโลกอย่างยั่งยืน