posttoday

มีผลแล้ว! ราชกิจจาฯ ประกาศผ่อนคลาย 7 ข้อ สวมแมสก์ตามความสมัครใจ

24 มิถุนายน 2565

เว็บไซต์ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ข้อกำหนดมาตรการผ่อนคลาย 7 ข้อ หลังสถานการณ์โควิด19คลี่คลาย ให้สวมแมสก์ตามความสมัครใจ แนะนำให้ใส่เมื่ออยู่ในพื้นที่แออัด รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ให้มีผลทันที

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.65 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 46) ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้ ระบุว่า

โดยที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันได้คลี่คลายและมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จนสามารถผ่อนปรนบรรดามาตรการและข้อจำกัดต่าง ๆ ให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับปกติ รวมไปถึงกำรผ่อนคลายข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างประเทศจากเดิมที่เคยกำหนดเป็นมาตรการสกัดกั้นเชื้อโรคอย่างเร่งด่วน โดยปรับให้สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศ

การดำเนินการตามแผนและมาตรการจัดการด้านสาธารณสุขทั้งหลายนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic ที่จะประกาศให้เป็นโรคติดต่อทั่วไป ในการนี้ รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุขจึงเห็นสมควรพิจารณาปรับลดระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการคงดำเนินมาตรการที่จำเป็นสำหรับป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรคต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อควบคุมการระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

อำศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.) ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์และยกเลิกการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

ข้อ 2 ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค

ข้อ 3 ผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร โดยให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) มีข้อแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ดังนี้

-เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี

-เป็นผู้เข้าข่ายเสี่ยงที่เมื่อติดเชื้อโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงหรือความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต (กลุ่ม 608) หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

-เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น

ข้อ 4 การผ่อนคลายมาตรการสำหรับการเคลื่อนย้ายและการเดินทางของแรงงานต่างด้าว ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติมากขึ้นให้ผู้ว่าราชการกทม. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้วแต่กรณีพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยให้การเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อการทำงานข้ามเขตจังหวัดการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อการทำงานภายในเขตจังหวัดสามารถดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนดตามปกติ

ข้อ 5 แนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์

ข้อ 6 การผ่อนคลายมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่เฝ้าระวัง

ข้อ 7 มาตรการเฝ้าระวังเพื่อการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคในพื้นที่เฝ้าระวัง

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/146/T_0021.PDF