ร้องยธ.ใช้คำสั่งคสช.ปิดถาวร2ผับปล่อยเด็กต่ำกว่า20ใช้บริการ

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 65 ตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ จำนวน 20 คน ได้เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับสถานบริการที่ปล่อยให้เด็ก เยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ละเมิดคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 จำนวน 2 แห่ง คือผับในพื้นที่ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และ ผับ ย่านปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (กทม.)

นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า หลังศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด 19 (ศบค.) อนุญาตให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะสามารถเปิดให้บริการได้ถึงเวลาเที่ยงคืน เริ่มวันที่ 1 มิ.ยที่ผ่านมา แต่ผ่านไปเพียง2วัน กลับเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน บริเวณลานจอดรถหน้าผับ ริมถนนสายพัฒนาการคูขวาง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิต 4 ราย จำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี ซึ่งโดยกฎหมายไม่สามารถเข้าไปใช้บริการในสถานที่ดังกล่าวได้

ล่าสุด11 มิ.ย ตำรวจเข้าตรวจค้นผับ ในพื้นที่เขตปทุมวัน กทม. พบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติกว่า 500 คน และพบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการอย่างน้อย 5 คน และตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วงหลายราย ที่สำคัญคือผับดังกล่าวเคยถูกสั่งปิดตามคำสั่ง คสช. ไปเมื่อประมาณปี 2561 แต่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนกระทั่งถูกจับกุม

"เครือข่าย ฯ กังวลต่อปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานศึกษาเพิ่งกลับมาเปิดเรียนตามปกติ และรัฐบาลกำลังผ่อนคลายกฎกติกาต่าง ๆ ให้กับสถานบริการร้านเหล้าผับบาร์ เราพบว่ามีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย การละเมิดกฎหมาย เพื่อดึงดูดลูกค้าโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจำนวนมาก และในความเป็นจริงจะพบสถานประกอบการจำนวนมากที่ละเมิดกฎหมายอย่างรุนแรงในช่วงนี้"นายธีรภัทร์ กล่าว

ขณะที่นายวันชัย พูลช่วย เลขานุการเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า เครือข่ายฯ ขอเสนอให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 เหตุการณ์ และดำเนินการตามกฎหมาย หากพบว่ามีการปล่อยประละเลยหรือละเมิดกฎหมาย เช่นปล่อยให้เด็ก เยาวชน เข้าไปใช้บริการและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เปิดเกินเวลา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กฎหมายกำหนด และหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ หรือยาเสพติดเข้าในสถานบริการ หากมีการกระทำผิดตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคำสั่งปิด 5 ปี หรือปิดถาวร

"จริงๆสถานประกอบการสามารถเปิดกิจการได้ แต่ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ฉวยโอกาส หรือละเมิดกฎหมาย สร้างผลกระทบทางสังคม ส่วนประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง แจ้งเหตุ สถานบริการร้านเหล้าผับบาร์ ที่ทำผิดกฎหมายด้วย"เลขาฯเครืแข่ายเฝ่าระวังธุรกิจสุรา กล่าว

ด้าน นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะประสานตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากขณะนี้การปลดล็อคสถานบริการ ผับ บาร์ และสถานบันเทิงต่าง ๆ ถือเป็นการทดลองของการกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่หากเกิดประเด็นที่มีการร้องเรียนของประชาชน ก็จะพยายามเร่งรัดติดตาม ให้มีความคืบหน้า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก