posttoday

โพลชี้ผู้ปกครองไม่พาเด็กไปฉีดวัคซีน เหตุหวั่นผลข้างเคียง!

15 พฤษภาคม 2565

เปิดผลอนามัยโพลพบสาเหตุที่ทำให้ผู้ปกครองไม่พาเด็กวัย 5-11 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะยังมีความกังวลว่าเด็กอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่ยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงของการเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ทุกชั้นเรียน เด็กควรได้รับวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ

แต่จากผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่อง “ความมั่นใจของผู้ปกครองต่อการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 - 11 ปี” ระหว่างวันที่ 22 เมษายน – 11 พฤษภาคม 2565 พบว่า ตอนนี้เด็กอายุ 5 - 11 ปี ได้รับการฉีดวัคซี เข็มแรกแล้ว และจะฉีดให้ครบ ร้อยละ 54.1 และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ร้อยละ 28.7

โดยเหตุผลที่ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไม่พาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีน คือ ยังมีความกังวลว่าเด็กอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ร้อยละ 77.2 และไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน ร้อยละ 55.3 รวมทั้งยังกังวลว่าเด็กที่ไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว อาจได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากวัคซีน ร้อยละ 37

"การฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 - 11 ปี สามารถสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตในเด็กได้ รวมทั้งการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาที่โรงเรียน จึงขอให้ผู้ปกครองมั่นใจ ในความปลอดภัยของการฉีดวัคซีน"อธิบดีกรมอนามัยกล่าว

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนในเด็ก ควรให้เด็กกินอาหาร หากเด็กมีอาการป่วย มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรักษาอาการให้หายจนกว่าจะเป็นปกติก่อน

สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวรุนแรง อาการยังไม่คงที่ ควรเข้ารับการประเมินอาการจากแพทย์ประจำตัว ก่อนเข้ารับการฉีด

อาการที่พบได้หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ คือ ปวด บวม แดง เฉพาะที่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นไข้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาที ในสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่งอาการดังกล่าว สามารถหายได้เองเมื่อกินยาลดไข้ และพักผ่อนให้เพียงพอ หลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์