posttoday

จับลูกศิษย์ใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัตยักยอกทรัพย์สินกว่า 190 ล้าน

03 เมษายน 2565

ตำรวจกองปราบปรามตามจับลูกศิษย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัตยักยอกทรัพย์ไปกว่า 190 ล้าน ค้นบ้านพักเจอทรัพย์สินจำนวนมากทั้ง รถหรูสารพัดยี่ห้อ เงินสด เงินสด กระเป๋าเบนแนม

จากกรณีปรากฎข่าวว่า มีการยักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา หลังจากสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมากและอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนนั้น

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. มีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า สำนวนคดีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปราม เข้ามาเป็นผู้ถือสำนวนคดี โดยกองปราบฯ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนไปแล้วและได้ตรวจสอบจนพบว่ามีการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีของวัดเกี่ยวกับการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขาจริง โดยบุคคลดังกล่าวเป็นลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัตและเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นไวยาวัจกร ก่อนจะสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมาที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มี.ค.พนักงานสอบสวนกองปราบฯได้ดำเนินการออกหมายจับ นายเนย (นามสมมติ) และสามารถจับกุมตัวนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว จากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาพบทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อาทิ รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนลี่ ยี่ห้อปอร์เช่ ยี่ห้อวอลโว่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ยี่ห้อเล็กซัส , เงินสด ,เงินฝากในบัญชี , อสังหาริมทรัพย์ , กระเป๋าแบรนเนม , พระเครื่องทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ประสานงานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ผู้ต้องหาได้อาศัยช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต อาพาตรักษาตัวโรคมะเร็งอยู่โรงพยาบาลจุฬาฯ ปลอมแปลงเอกสารลายเซ็น และการทำธุรกรรมอื่นๆ โยกย้ายทรัพย์สินไปเป็นของตัวเองกว่า 190 ล้านบาทและอาจจะมีมากกว่านี้ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังจากพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลในการผัดฟ้องฝากขังครั้งแรก เนื่องจากมูลค่าทรัพย์สินที่กระทำความผิดมีมูลค่าสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

มีรายงานจากชุดสืบสวนคดีนี้ว่า คดีนี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา นายเนย ได้ใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน จากนั้นได้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนำไปแสดงต่อพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีงินฝากของวัดชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาประมาณต้นเดือนม.ค.นายเนย ยังคงใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงินแล้วนำมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนเองต้องการ อีกเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ได้มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่งเป็นผู้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวไปแสดงต่อพนักงานธนาคาร เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม แล้วให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายทำธุรกรรมซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้แก่ นายเนย ก่อนที่ฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง

ต่อมาวัดวชิรธรรมาราม ได้ตรวจพบการทุจริตของนายเนย จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเนยตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบฯแล้ว ทางวัดบวรนิเวศวิหาร เชื่อว่า นายเนย น่าจะทุจริตเอาเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดของวัดบวรนิเวศวิหารไปด้วย พระธรรมวชิรญาณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุติ) จึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ด้วย

จากการตรวจสอบของ พระธรรมวชิรญาณ พบว่า สมเด็จพระวันรัต ได้เปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัว และบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร ไว้กับธนาคารจำนวนหลายบัญชี เมื่อประมาณปลายเดือนต.ค 2564 นายเนย ได้นำสมุดบัญชีเงินฝากจำนวนหลายเล่ม และบัตรประจำตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือของ นายเนย มามอบให้บุคคลใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง แล้วสั่งการให้บุคคลดังกล่าวนำไปติดต่อกับพนักงานธนาคาร เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

หลังจากนั้น นายเนย ได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองทำธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมารามได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 80 ล้านบาทเศษ และวัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 110 ล้านบาทเศษ รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 190 ล้านบาทเศษโดยวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเนย ในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา