ไทยเซ็นMOUส่งแรงงานไปซาอุฯ เน้นคุ้มครองตามหลักสากล
ไทย เซ็นMOU ซาอุฯ ยึดหลักคุ้มครองแรงงาน มาตรฐานสากล โชว์แรงงานไทยมีทักษะฝีมือ นำร่องด้วยการจัดส่งระหว่างรัฐต่อรัฐ ป้องกันเก็บค่าหัวสูง
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 65 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เดินทางไปซาอุฯ โดยเป็นหัวหน้าทีมไทยแลนด์ ในพิธีการลงนาม ร่วมกับ นายอะห์หมัด บิน สุไลมาน อัลรอยิฮิ (Ahman Sulaiman ALRajhi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ใน MOU 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับแรก คือความตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และอีกฉบับเป็นความตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานในบ้านระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
การลงนามครั้งนี้มีความสำคัญในการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในด้านต่างๆ รวมถึงการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุฯอีกครั้ง หลังจากที่ไม่มีการจัดส่งแรงงานในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ซาอุฯ ถือเป็นตลาดแรงงาน ยุคแรกที่คนไทยนิยมไปทำงานต่างประเทศเป็นประเทศแรกก่อนไต้หวัน สิงค์โปร์ อิสลาเอล เกาหลี ญี่ปุ่น
สำหรับสาระสำคัญใน MOU ที่จะมีการลงนามนั้นทั้งสองประเทศเห็นสอดคล้องกันที่เน้นคุ้มครองคนหางานให้เป็นไปตามหลักสากลโดย กำหนดให้นายจ้างต้องดูแล รับภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายบริการจัดหางาน ค่าเดินทาง ค่าตั๋วเครื่องบิน และห้ามไม่ให้นายจ้างเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้กับแรงงาน หรือเรียกเก็บจากแรงงาน หรือหักจากเงินเดือน ค่าจ้างของลูกจ้างในภายหลัง ทั้งนี้ถือว่านายจ้างเป็นฝ่ายที่ได้รับประโยชน์จากแรงงานที่ทำงานให้ รวมถึงกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง ผ่านบัญชีธนาคารในชื่อแรงงานอีกด้วย
นอกจากนี้ทางซาอุฯ ยังมีข้อริเริ่มในเรื่องมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียนั้น จะมี E-Contract Program ซึ่งเป็นการทำสัญญาจ้างอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรักษาสิทธิของลูกจ้าง และลดความขัดแย้งระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง
รวมถึง Labor Mobility Initiativeการให้แรงงานเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น สร้างประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข็งขันในตลาดแรงงาน รวมทั้งให้สอดรับกับความต้องการแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของทางการซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ทางกระทรวงแรงงาน เน้นประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับจุดเด่นด้านฝีมือของแรงงานไทย ที่เป็นแรงงานมีทักษะ "มีฝีมือและกึ่งฝีมือ" รวมทั้งความขยัน อดทนที่เป็นเอกลักษณ์ของแรงงานไทย ความพร้อมในการทดสอบฝีมือแรงงานและกระบวนการฝึกอบรมต่างๆ ให้แก่แรงงานไทยเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางมาทำงานในซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้สองฝ่าย จะร่วมมือกันดำเนินการนำไปสู่ระบบที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งการจัดหาแรงงาน การจัดส่งแรงงานไปทำงาน และการส่งแรงงานกลับประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุคุณสมบัติและประเภทของงานที่เสนอให้มีการจัดหาแรงงาน รวมทั้งค่าจ้าง ผลประโยชน์ และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และสร้างความมั่นใจว่าสวัสดิการและสิทธิของแรงงานไทย ที่ได้รับการว่าจ้างทำงานในซาอุดีอาระเบียได้รับการคุ้มครอง
นอกจากนี้เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดหาแรงงานเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีจริยธรรม ซึ่งแรงงานและนายจ้างจะมีสิทธิรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสามารถดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับสำนักงานจัดหางาน บริษัทจัดหางาน หรือตัวแทนจัดหางาน ในกรณีละเมิดกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดที่ใช้บังคับ รวมทั้งสนับสนุนให้แรงงานปฏิบัติตามกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะทบทวน ประเมินผล และติดตามการดำเนินการตามข้อตกลงนี้เป็นระยะด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าการที่ทางกระทรวงแรงงานเน้นแรงงานที่มีทักษะฝีมือสูง และแรงงานกึ่งฝีมือ เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนในการทำงานในอัตราสูง โดยมีการประชาสัมพันธ์แรงงานที่ต้องการไปทำงานซาอุฯให้เตรียมความพร้อมในเรื่องสุขภาพ และทักษะฝีมือแรงงานและยึดถือสัญญาจ้างเป็นสำคัญ
รายงานข่าวแจ้งว่าลำดับแรกการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุฯ เริ่มแรกนำร่องจะเป็นการจัดส่งโดยกรมการจัดหางาน ที่เป็นการจัดส่งระหว่างรัฐต่อรัฐ เพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่านายหน้า ทั้งนี้จะมีการทำงานร่วมกันในการพัฒนาระบบให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากต้องจัดหาแรงงานโดยหน่วยงานจัดส่งที่ได้รับการจดทะเบียน(บริษัทจัดหางาน)และมีจริยธรรม โดยมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด ห้ามการหักค่าใช้จ่ายจากการตัดเงินเดือนของแรงงาน และมีการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการคุ้มครองแรงงานที่เคร่งครัด