posttoday

คมนาคม-รฟท. ถกวาง Action Plan สู้คดี"โฮปเวลล์"ใหม่

11 มีนาคม 2565

กระทรวงคมนาคม-รฟท. ประชุมคณะทำงาน วางAction Plan สู้คดี"โฮปเวลล์"ใหม่ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ทำหนังสือถึงอัยการมอบอำนาจให้ต่อสู้คดีแทน ภายใน 18 มี.ค.65 ให้"พีระพันธุ์" เป็นผู้ประสานงาน

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.65 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายนิรุฒ มณีพันธุ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะทำงาน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุมคณะทํางานศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อดําเนินการแก้ไขปัญหาและความเสียหายของรัฐที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (คดีโฮปเวลล์)เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดมีคําสั่ง ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคําขอพิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Zoom Could Meeting ซึ่งในที่ประชุมมีการพิจารณาถึงแนวทางการดำเนินงานภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งที่ 81-83/2565 ฉบับลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยไว้พิจารณา และให้ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณางดการบังคับคดีที่บังคับให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยชำระเงินสองหมื่นกว่าล้านบาทให้แก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสัญญาณในทางที่ดีต่อภาครัฐในการขอพิจารณาคดีใหม่

คมนาคม-รฟท. ถกวาง Action Plan สู้คดี\"โฮปเวลล์\"ใหม่

โดยในการประชุมมีการหารือถึง Action Plan ที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมายที่กำหนดไว้ในการฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งความสำเร็จของการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ในครั้งนี้มีนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าทีมในการสืบค้นพยานหลักฐานต่าง ๆ และข้อพิรุธ รวมถึงได้รับการสนับสนุนที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของภาครัฐจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย

การประชุมครั้งนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีโอกาสต่อสู้โดยคดีจาก พยาน หลักฐานและข้อพิรุธต่าง ๆ และได้การสนับสนุนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างดีในการต่อสู้คดีไปด้วยกันโดยที่ประชุมพิจารณาแล้วได้ข้อยุติว่า กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย จะมีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยมีผู้แทนกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงมีมติให้ นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นผู้ประสานงานคดีนี้โดยคณะจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ซึ่งพนักงานอัยการก็ได้รับทราบและยินดีรับข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย