posttoday

ปลดล็อกกัญชาพ้นยาเสพติดประเภท5 อนุทินชี้ปลูกได้แต่ต้องจดแจ้งก่อน

25 มกราคม 2565

ที่ประชุมป.ป.ส.เห็นชอบร่างประกาศสธ. ให้กัญชา กัญชง พ้นยาเสพติดประเภท5 ยกเว้นส่วนสกัดของกัญชา ที่มีสารทีเอชซี เกิน 0.2% ขณะที่ภูมิใจไทยส่งร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าสภา 26 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อพิจารณาร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้กัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเสนอมา

ซึ่งร่างดังกล่าวจะมีการระบุชื่อยาเสพติดที่ยังคงอยู่ในประเภท 5 ประกอบด้วย ฝิ่น เห็ดขี้ควาย ส่วนสกัดของกัญชา ที่มีสารทีเอชซี เกิน 0.2% ซึ่งหากจะปลดล็อคส่วนสกัดของกัญชาก็จำเป็นต้องออกข้อกำหนดควบคุมและให้เกิดความมั่นใจว่า จะนำมาใช้ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย อุตสาหกรรม และการใช้ทางสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์อาหาร ไม่ใช่นำไปใช้ทางที่ผิด เช่น การเสพเพื่อให้มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท

"วันที่ 26 ม.ค. พรรคภูมิใจไทยจะยื่น ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ต่อสภาฯ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากส.ส.ทุกคน โดยจะเร่งให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน"นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า จากนี้เลขาธิการ ป.ป.ส. จะนำผลการประชุมทั้งหมดไปประมวลผล เมื่อยืนยันผลกลับมาก็จะมีการถอนกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะสนับสนุนพืชกัญชง กัญชา เพื่อใช้ทางการแพทย์ การวิจัยและการศึกษา อีกทั้งยังเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ให้เร่งการนำพืชกัญชามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน

ส่วนเรื่องของความห่วงใยจากนานาชาติ ก็มีข้ออธิบายอยู่แล้ว เพราะเรานำมาใช้ทางการแพทย์ ดังนั้นทางกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งไปยังทูตไทยในแต่ละประเทศให้ชี้แจงผู้ที่สงสัยต่อไป การประชุมวันนี้คำนึงถึงประโยชน์ประชาชน และประเทศเป็นหลักทุกหน่วยงานเห็นพ้องต้องกัน

"ขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน และจากนี้ไปขอความร่วมมือให้นำไปใช้ในสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่าใช้ในทางที่เกิดโทษ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะวิจัยและต่อยอดเพื่อใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์สูงสุด"นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่า ประชาชนทั่วไปจะสามารถปลูกกัญชาได้เมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ดีที่สุดต้องทำตามกฎหมาย คือต้องรอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อน จากนี้ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องไปหาแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการใช้กัญชา และไม่ให้เกิดการตีความ เรารอมาขนาดนี้แล้วและทำจนสำเร็จ จากนี้ต้องไม่มีใครไปตีความอีก เราปลดมาขนาดนี้แล้วขอให้รอนิดหนึ่ง ทำตามกฎหมายดีที่สุด

เมื่อถามว่า หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ คนที่ปลูกกัญชาได้จะเป็นเฉพาะวิสาหกิจชุมชนหรือประชาชนทั่วไปสามารถปลูกได้ด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า "จากนี้ไปจะสามารถปลูกได้ง่ายแล้ว แต่ต้องจดแจ้งก่อน และต้องปลูกตามจำนวนที่กำหนดแล้วไม่นำไปสกัดเพื่อใช้ในทางอุตสาหกรรม หากจะสกัดเป็นน้ำมันต้องขออนุญา นี่คือกระบวนการควบคุมการใช้กัญชา ถ้าชาวบ้านจะปลูกในบ้านก็จดแจ้งได้เลย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงต้องเร่งทำกฎหมายเพื่อคุ้มครองชาวบ้าน ไม่ให้มีคนหัวหมอตีความว่าคนไหนทำผิดหรือไม่ทำผิด และการจดแจ้งในที่นี้คือเรียนมาเพื่อทราบ ไม่ใช่เรียนมาเพื่ออนุมัติ"

เมื่อถามว่ามีความมั่นใจในการควบคุมการใช้กัญชาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนต้องเคารพกฎหมาย เราไม่อยากจะบังคับหรือลงโทษตามกฎหมาย แต่หากประชาชนไม่เคารพกฎหมาย ก็ไม่มีทางเลือกเพราะทำมาให้ถึงขนาดนี้แล้ว เนื่องจากประชาชนบอกว่าต้องทำ กัญชามีประโยชน์จึงขอให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากกัญชา ไม่ใช่ใช้โทษจากกัญชา รัฐบาลจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกเรื่องถึงจะประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ ได้

เมื่อถามว่า กฎหมายดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันที่ 26 ม.ค. จะเสนอร่างกฎหมาย โดยตนลงนามไปแล้วเป็นคนแรก ถือว่าเราทำตามสัญญาแล้ว

เมื่อถามว่า นโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยผ่านแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ทำหมดแล้วนี่มันทะลุซอยแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ทำตามสัญญาเรียบร้อยแล้วก็พร้อมเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายอนุทิน ไม่ตอบอะไรเพียงแต่พูดในลำคอว่า? “ฮึ” พร้อมกับยิ้มทำหน้าทะเล้นให้ผู้สื่อข่าว