posttoday

ดีเอสไอ มั่นใจสอบเพิ่ม 4 ประเด็น มัดผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า”บิลลี่”

18 มกราคม 2565

ดีเอสไอมั่นใจหลักฐานสอบเพิ่ม 4 ประเด็นมัดผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม”บิลลี่”ดิ้นไม่หลุด เซ็นต์สำนวนคดีคืนให้อัยการสูงสุดชี้ขาดวันนี้

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม พร้อม นางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยานายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เดินทางเข้าพบ น.พ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฆาต กรรมนาย นายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ หลังดีเอสไอส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นายบุญแทน บุษราคัม นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ

น.พ.ไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงช้าที่ผ่านมาตนได้ลงนามในสำนวนสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งของอัยการสูงสุดที่ขอให้สอบเพิ่มเติมในคดีนี้ 4 ประเด็นคือ การสอบผู้เชี่ยวชาญด้านยานพาหนะที่นำตรวจในบริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน แหล่งที่มาของถังน้ำมันหรือวัตถุที่ตรวจพบ ความสัมพันธ์ทางสายโลหิตของมารดาและบิลลี่ การตั้งถิ่นฐานและการเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของครอบครัวนายบิลลี่ โดยมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จำนวน 7 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปฎิบัติการคดีพิเศษภาคได้สอบสวนเพิ่มเติมจนแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา สำหรับนางพิณนภาและครอบครัวขณะนี้ดีเอสไอยังให้การดูแลตามโครงการคุ้มครองพยานอยู่เพราะถือเป็นบุคคลสำคัญในคดี ซึ่งเราได้ให้ความสำคัญกับคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสำนวนคดีและหลักฐานเพิ่มเติมที่ดีเอสไอส่งไปให้อัยการสูงเป็นผู้ชี้ขาดนั้นจะเอาผิดจำเลยทั้งหมดได้

ขณะที่นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนและนางมึนอมาติดตามความคืบหน้าคดี และมีความมั่นใจขึ้นหลังจากทราบว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีที่อัยการมีคำสั่งให้ดีเอสไอสอบเพิ่มเติมใน 4 ประเด็นดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาแม้อัยการจะรับสำนวนคดีไปแล้วแต่มีความเห็นว่าข้อมูลการฆาตกรรมยังมีไม่เพียงพอและสั่งฟ้องเพียงข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งๆที่ดีเอสไอก็มีความเห็นแย้งไปว่าพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วก็ตาม วันนี้ตนทราบว่าดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าและขอบคุณดีเอสไอด้วย นอกจากนี้ นางพิณนภา หรือ มึนอ ก็ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดเองเพราะมีพยานที่ถูกบังคับอ้างว่าเห็นการปล่อยบิลลี่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงพบว่าไม่มีการปล่อย ซึ่งเป็นข้อมูลยืนยันชัดเจน

ส่วน นางพิณนภา หรือ มึนอ กล่าวสั้นๆ ขอขอบคุณดีเอสไอที่ติดตามเรื่องมาโดยตลอด และอยากขอความยุติธรรมให้กับบิลลี่ให้เร็วที่สุด