posttoday

ดีเอสไอ ประสานตร.ขยายผลจับ-ยึดทรัพย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ

11 มกราคม 2565

ดีเอสไอสอบเส้นทางการเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติใช้บริการคนไทยโทรศัพท์จากชายแดนหลอกลวง เปิดบัญชีม้าโอนเงินขั้นต่ำ 4 ลำดับชั้นผ่านระบบ E-banking เลี่ยงอายัดบัญชี

นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีไแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหลอกลวงเอาเงินของผู้เสียหายว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ต่อเนื่องจนถึงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ยังมีผู้เสียหายหลงเชื่อเดินทางมาที่ดีเอสไอตามคำหลอกลวงหลายราย และบางรายมีการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก กรณีดังกล่าวแม้ไม่ใช่คดีพิเศษ แต่ตนได้มอบหมายให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวสืบสวนจนทราบว่าเป็นขบวนการของชาวต่างขาติ โดยใช้เครือข่ายคนไทยเป็นผู้หลอกลวงโทรศัพท์มาจากบริเวณตะเข็บชายแดน ผ่านระบบ Voice Over Internet Protocal (VOIP) และใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยในการหลอกลวง มีการจัดหาบัญชีม้าที่เป็นของคนไทยเพื่อใช้ในการรับโอนเงิน โดยเจ้าของบัญชีจะเปิดการใช้งานในรูปแบบ E-banking ให้แก่กลุ่มผู้กระทำความผิด

“บางรายจะจดทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้พร้อมบัญชีเงินฝาก เพื่อใช้ในการโทรติดต่อ ซึ่งจากการตรวจเส้นทางการเงินพบว่ามีการโอนเงินจำนวนหลายทอด ไม่น้อย 4 ลำดับชั้นบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงการอายัดบัญชีเงินฝาก และยังพบการธุรกรรมผ่าน E-banking ในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลและประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจับกุมดำเนินคดีและยึดทรัพย์ต่อไป”อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จะมีพฤติการณ์โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และแจ้งต่อผู้เสียหายว่ากำลังดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน ขอให้โอนเงินไปเก็บไว้ในบัญชีของผู้ที่แจ้งเพื่อตรวจสอบ หากดำเนินการเสร็จแล้วจะโอนคืนให้ และยังสร้างความน่าเชื่อถือโดยนัดให้ผู้เสียหายเดินทางมายังดีเอสไอเพื่อสอบปากคำ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้สุดท้ายเชิดเงินหนี

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการสอบสวนของดีเอสไอจะไม่มีเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอหรือของรัฐติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับการเงิน เลขบัญชี หรือให้โอนเงิน หรือทำธุรกรรมทางการเงิน และไม่มีการนัดหมายให้มาพบนอกวัน เวลาราชการ หากพบพฤติกรรมดังกล่าวขอให้วางสายทันที หรือหากหลงเชื่อและมีการโอนเงินให้คนร้ายไปแล้ว ให้รีบแจ้งความกับพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุการณ์และรีบติดต่อธนาคารเพื่อระงับการทำธุรกรรมโดยเร็วที่สุด