posttoday

"พี่ศรี" บุกยธ. ค้านย้าย"เปรมชัย"ไปรักษาตัวนอกคุก

30 ธันวาคม 2564

"ศรีสุวรรณ"บุก กระทรวงยุติธรรมค้านย้าย"เปรมชัย"ไปรักษาตัวนอกคุก ขู่ร้องปปช.เอาผิด รมว.ยุติธรรม -อธิบดีกรมราชทัณฑ์ หากย้ายไปจริง

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 64 ที่กระทรวงยุติธรรม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องคัดค้านการส่งตัวนายเปรมชัย กรรณสูต ไปรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ชี้ต้องไม่มีอภิสิทธิ์ชนใดๆในระบบการลงทัณฑ์นักโทษตามคำพิพากษาของศาล ถ้าคนรวยขอได้ คนจนก็ต้องขอได้เช่นกัน ย้ำต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นจะร้องเอาผิด รมว.ยุติธรรมฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทันที

ทั้งนี้กรณีที่ภรรยาของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกคดีเสือดำ ในเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ เดินทางเข้าพบท่านรมว.กระทรวงยุติธรรม และรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสื่อขอความเป็นธรรม ขอให้ส่งนายเปรมชัย ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ และเกรงว่านายเปรมชัยจะติดโควิด-19 ในเรือนจำ เพราะวิตกว่าเครื่องไม้เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำจะดูแลได้ไม่ดีพอนั้น

การขอย้ายผู้ต้องขังไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ในอดีตเคยใช้เป็นเทคนิควิธีการที่จะช่วยผู้ต้องขังไม่ให้ต้องรับโทษในเรือนจำ เพราะในโรงพยาบาลจะกิน จะนอน เดินเหินสามารถทำได้สะดวก โดยไม่ต้องคอยปฏิบัติระเบียบกฎเกณฑ์ในการอยู่ในเรือนจำที่เข้มงวด ดังนั้น นักโทษที่มีเงิน มีชื่อเสียง ก็มักจะใช้เทคนิควิธีการดังกล่าวกันมากในอดีต แต่ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีระบบการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลแล้ว อีกทั้งยังมีทัณฑสถานโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ การใช้ข้ออ้างและเทคนิคดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว

นอกจากนั้นนายเปรมชัย กรรณสูต เพิ่งถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกในคดีเสือดำเป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน และเพิ่งเข้ารับโทษ ชดใช้กรรมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ยังไม่ทันข้ามเดือน ข้ามปี ก็มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกันแล้ว อีกทั้งยังกล่าวอ้างด้อยค่าเครื่องไม้เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ในระบบการดูแลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์เสียอีก ซึ่งกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมไม่ควรตกหลุมพรางในเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตามหาก รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยินยอมให้มีการย้ายตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ได้ สมาคมฯจะนำความไปยื่นร้องต่อศาลทุจริต หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดตามครรลองของกฎหมายทันที

ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า ขณะนี้นายเปรมชัยยังอยู่ระหว่างการกักโรคในเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ โดยอยู่ห้องกักโรคเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ไม่มีพัดลม นอนพื้นมีผ้า 3 ผืน น้ำดื่มปกติ ไม่มีอภิสิทธิ์ชน และนายเปรมชัยไม่ได้ร้องขออะไร แต่ญาติอาจเป็นห่วง เพราะนายเปรมชัยมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน เส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน และเพิ่งผ่าตัดต้อกระจกตา ส่วนที่ขามีแผล ประกอบกับมีปัญหาน้ำหนักตัวมาก อาจนั่งส้วมซึมไม่ได้ ราชทัณฑ์ก็ได้ดูแลเรื่องการรักษาต่อเนื่อง ยืนยันนายเปรมชัยไม่มีอภิสิทธิ์ ส่วนที่ภรรยานายเปรมชัยมายื่นคำร้องก็สามารถทำได้ตามสิทธิ์ แต่จะอนุญาตให้ไปรักษาตัวที่ใดเราทำตามอำเภอใจคนมายื่นหนังสือไม่ได้ เพราะมีกฎระเบียบราชทัณฑ์

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า หลักการเบื้องต้น หากนายเปรมชัยมีอาการเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาจากกองแพทย์ประจำเรือนจำ ถ้าไม่สามารถรักษาได้ก็จะส่งต่อไปที่โรงพยาบาลแม่ข่ายประจำอำเภอ หากแพทย์โรงพยาบาลแม่ข่ายวินิจฉัยว่าเกินกว่าที่จะรักษาได้ก็ต้องส่งมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์จะต้องตอบรับการรักษาด้วย เว้นแต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีเครื่องมือรักษาได้ก็จะพิจารณาส่งโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งกระบวนการตรงนี้เป็นเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ กระทรวงยุติธรรมหรือกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถแทรกแซงได้