posttoday

กองปราบจับเครือข่ายแก๊งยาเสพติดภาคอีสานหนีคดียิงตำรวจุรินทร์

29 ธันวาคม 2564

กองปราบขนหนุมานยุทโธปกรณ์ครบมือ ล้อมจับ“ขวัญ ปาเลสไตน์” แก๊งยาเสพติดภาคอีสาน หนีคดียิงตำรวจสุรินทร์ หลังพบเบาะแสหนีกบดานเมืองกรุง

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.เวลา 10.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบฯ ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเจ้าของฉายา ขวัญ ปาเลสไตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.111/2564 ลงวันที่ 29 ต.ค.2564 ข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน,มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” และ หมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 12 เม.ย.2564 ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน)” หลังจับกุมตัวพร้อมของกลางยาบ้า 396 เม็ด ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านบางแค แขวงและเขตบางแค กทม.

กองปราบจับเครือข่ายแก๊งยาเสพติดภาคอีสานหนีคดียิงตำรวจุรินทร์

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งมน ได้รับแจ้งเบาะแสว่า ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งหมายจับของศาลแขวงสุรินทร์ คดียาเสพติด กำลังจับกลุ่มมั่วสุมอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม นายกิตติ กลับพยายามขัดขืนวิ่งหลบหนี พร้อมกับชักอาวุธปืนพกสั้นตั้งลำเล็งและยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ 3-4 นัด แต่เคราะห์ดีปืนเกิดขัดลำ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวนายกิตติ อาศัยจังหวะชุลมุนช่วงเวลาดังกล่าววิ่งเข้าป่าทึบหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติม

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ป. สืบทราบว่าหลังก่อเหตุล่าสุด ได้หนีมาหลบซ่อนตัวอยู่กับกลุ่มพรรคพวกที่ย่านบางแค กทม. จึงวางแผนสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบฯพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือวางแผนเข้าปิดล้อมตรวจค้นจนสามารถจับกุมตัวได้โดยละม่อมพร้อมของกลางยาเสพติดดังกล่าว

พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เคยถูกจับดำเนินคดียาเสพติดมาแล้ว 7 ครั้ง แต่ก็ไม่เข็ดหลาบยังคงวนเวียนอยู่กับแก๊งยาเสพติดเช่นเดิม อีกทั้งยังมีพฤติกรรมครอบครองอาวุธปืนสงคราม ต่อสู้ขัดขวาง เพื่อความรอบครอบและ ลดความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คิด จึงต้องวางแผนเข้าจับกุมด้วยความรอบครอบและรัดกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

กองปราบจับเครือข่ายแก๊งยาเสพติดภาคอีสานหนีคดียิงตำรวจุรินทร์

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอ้างว่าปืนที่ใช้ยิงขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเพียงปืนของเล่นไม่ใช่อาวุธจริง แต่ยอมรับว่า ยาบ้าของกลางที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นของตนเองจริง พร้อมทั้งยอมรับว่าตนเองเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งปาเลสไตน์ หรือ แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.ทุ่งมน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป