posttoday

กรมคุกยันไม่เคยทำร้าย-บังคับนักโทษทำงาน

24 ธันวาคม 2564

โฆษกราชทัณฑ์ ยัน ไม่เคยทำร้าย-บังคับนักโทษทำงาน แจง ให้โอกาสผู้ต้องขังทำงานนำไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ ส่วนค่าตอบแทนได้ตามความสามารถ

นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการบังคับขู่เข็ญหรือทำร้ายผู้ต้องขังเพื่อให้ทำงานว่า การฝึกวิชาชีพ และการให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสทำงานเพื่อเพิ่มทักษะในวิชาชีพเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาพฤตินิสัย โดยมีความมุ่งหวังให้ผู้ต้องขังมีความรู้และทักษะ เพื่อนำไปประกอบอาชีพที่สุจริตหลังพ้นโทษ ซึ่งการเผยแพร่ข่าวที่กล่าวถึงการผลิตอวนเป็นการกล่าวถึงงานบางประเภท อาจจะไม่สะท้อนภาพรวมเท่าใดนัก ข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ผู้ต้องขังได้รับโอกาสในการทำงานที่หลากหลาย และได้รับค่าตอบแทนตามความรู้พื้นฐานของผู้ต้องขัง ขีดความสามารถ ความพร้อมด้านร่างกาย และจิตใจของผู้ต้องขัง รวมถึงความต้องการของตลาดแรงงาน เช่น การฝึกเป็นผู้ให้บริการข้อมูลผ่านโทรศัพท์ (คอลเซ็นเตอร์) ได้รับเงินรางวัลปันผล จำนวน 4,262 บาท/คน/เดือน การฝึกวิชาชีพทำเบเกอรี่ ที่ได้รับเงินรางวัลปันผล จำนวน 13,882 บาท/คน/เดือน การฝึกอาชีพคาร์แคร์ได้รับปันผล 1,462 บาท/คน/เดือน การฝึกวิชาชีพคัดแยกผลไม้อบแห้ง ได้รับปันผล 3,420 บาท/คน/เดือน เป็นต้น

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การฝึกอบรมอาชีพผู้ต้องขังจะได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ ทักษะการทำงานและการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเวลา การวางแผน และการใช้สมาธิ ในส่วนของรายได้ที่เกิดจากการฝึกวิชาชีพหรือการฝึกทักษะการทำงาน กรมราชทัณฑ์จะมีการจ่ายค่าตอบแทนในลักษณะเงินปันผล ซึ่งเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจ่ายเงินผลพลอยได้จากการดำเนินงานฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังเป็นรางวัลที่กำหนดไว้อยู่แล้ว โดยการฝึกวิชาชีพผลิตอวนก็ได้ดำเนินการภายใต้นโยบายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องดังกล่าว

" การบังคับขู่เข็ญหรือทำร้ายผู้ต้องขังเพื่อให้ทำงาน ไม่ใช่แนวทางของกรมราชทัณฑ์ และเป็นการกระทำที่ไม่อาจรับได้ ทั้งนี้ การที่ผู้ต้องขังทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติ โดยคำนึงถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน ถือเป็นนโยบายเน้นหนักของกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมตลอดมา โดยมีมาตรฐาน การปฏิบัติงานและกลไกในการตรวจสอบหลายระดับ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความเป็นธรรมสำหรับผู้ต้องขังทุกคน "รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว