ดีเอสไอดำเนินคดีนายทุนบุกรุกป่าภูเขียวชัยภูมิ

นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบคดีนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิว่า วันนี้ ดีเอสไอและหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังกรมป่าไม้ได้ร้องทุกข์โดยรับเป็นคดีพิเศษ108/2563 ว่ามีกลุ่มนายทุน เข้าไปกว้านซื้อที่ดินบริเวณป่าภูเขียวเพื่อปลูกยางพารา บ้านพัก ในเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ โดยที่ดินแปลงดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรตามมติครม.12 พย 2506 กำหนดให้สงวนไว้เพื่อเป็นสมบัติของชาติ อยู่ในท้องที่ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ

นายไตรฤทธิ์ กล่าวว่าจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าที่ดินแปลงเกิดเหตุ ตั้งอยู่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตะเบาะ-ห้วยใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 400,000 ไร่ สภาพพื้นที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าอยู่เป็นจำนวนมากโดยกลุ่มผู้บุกรุกมีความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ ฐานก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยกระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่า 25 ไร่ โดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และความผิดฐานเข้าไปยึดถือครอบครอง รวมถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า เนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ประกอบมาตรา 108 ทวิ

"ความผิดทั้ง 2 ฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดที่มีบทกำหนดโทษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ. ดีเอสไอจึ ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจจับค่าพิกัดดาวเทียมระบุตำแหน่งที่ดินและอาณาเขต ที่มีการบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองฯ วิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ ตรวจหาร่องรอยการทำประโยชน์ในที่ดินป่าไม้ย้อนหลังเป็นรายปี โดยได้นำอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ทำการบินบันทึกภาพพื้นราบและภาพมุมสูง เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินป่าไม้ที่เป็นปัจจุบัน เพื่อนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานในคดี หากสอบสวนพบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม จะได้ทำการสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระผิดต่อไป"อธิบดีดีเอสไอ กล่าว