posttoday

"WWF"ชื่นชมกระบวนการยุติธรรมไทยลงโทษคนทำผิดคดีเสือดำ

08 ธันวาคม 2564

องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลแถลงการณ์ชื่นชมกระบวนการยุติธรรมไทย ที่พิจารณาตัดสินคดีเสือดำด้วยความโปร่งใสไม่เลือกชั้นวรรณะ นำไปสู่การลงโทษผู้กระทำผิดในคดี

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 64 องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF ประเทศไทย) แถลงการณ์ระบุว่า ขอแสดงความชื่นชมกระบวนการทางกฎหมายและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สามารถดำเนินคดีผู้กระทำความผิด กรณีการจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต รวมพรรคพวกจำนวน 4 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 จนถึงกระบวนการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ที่ถือเป็นอันสิ้นสุด ในวันที่ 8 ธันวาคมพ.ศ. 2564

จากคำพิพากษาของศาลฎีกา ระบุให้นายเปรมชัย ผู้ต้องหาในคดีคดีล่าเสือดำกับไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตตะวันตก จ.กาญจนบุรี คำพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา พร้อมเรียกค่าปรับต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวนเงิน 2 ล้านบาท นั้น

WWF ประเทศไทย ขอแสดงความชื่นชมกระบวนการยุติธรรม และความเข้มแข็งในการใช้กฎหมายต่อการละเมิดและกระทำผิด ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการพิจารณาตัดสินคดี ด้วยความโปร่งใสไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกสถานะของผู้กระทำความผิด

WWF ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำพิพากษาที่ถือเป็นที่สิ้นสุดในครั้งนี จะเป็นตัวอย่าง และเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศไทยในการป้องปรามและขจัดกลไกการค้า และการล่าสัตว์ รวมถึงการละเมิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้เกิดการกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป

ทั้งนี้ WWF ประเทศไทย ขอแสดงความชื่นชม และขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึง คุณวิเชียร ชิณวงษ์ อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกที่ทำงานด้วยความกล้าหาญ สุจริต และเที่ยงตรงและยืนหยัดทำงานอย่างมืออาชีพ เพื่อต่อสู้นำกรณีนี้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม

และขอแสดงความชื่นชมศาลยุติธรรม อันได้แก่ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และ ศาลฎีกา ที่พิจารณากรณีและตัดสินด้วยความรอบคอบ พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ว่า ศาล เป็นองค์กรสาธารณะที่ใช้อำนาจตุลาการในการธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องทางกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

WWF ประเทศไทยมีความยินดี และภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นปรากฎการณ์แห่งความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวไทย ที่ให้ความสนใจและติดตามประเด็นการทำผิดกฎหมายที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ ขับเคลื่อน และรณรงค์อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

การต่อสู้ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศในด้านการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทรัพยากรธรรมชาติที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งวันนี้ผลการพิพากษาคดี มิได้ถือเป็นเพียงแค่ชัยชนะ แต่เป็นการสร้างให้เกิดพลังขับเคลื่อนประเทศในงานด้านการอนุรักษ์ที่คู่ขนานไป กับการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ในฐานะองค์กรอนุรักษ์ การปกป้องทุกชีวิตบนผืนป่าไทยเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักที่จะธำรงรักษารวมทั้งส่งมอบพื้นที่ธรรมชาติอันอุดสมบูรณ์เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สู่คนรุ่นหลังต่อไป