posttoday

กรมสุขภาพจิตเผยกลุ่มไม่รับวัคซีนโควิดชะล่าใจตัวเองไม่ติดโรค

08 ธันวาคม 2564

กรมสุขภาพจิตเผยผลวิเคราะห์แรงจูงใจกลุ่มไม่รับวัคซีนโควิด-19 พบกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ชะล่าใจคิดว่าตัวเองจะไม่ติดโรค

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ออกมาเปิดเผยว่า จากผลการศึกษากลุ่มที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนที่ผ่านมา จากกลุ่มประชากรกว่า 1,000 คน โดยพบปัจจัยที่สร้างความจูงใจให้คนฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน มี 3 ช ก็คือ เชื่อมั่น ชะล่าใจ และช่องทาง

ในเรื่องของความเชื่อมั่นในวัคซีน กลุ่ม 608 คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กว่า 53 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มที่ไม่เชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัย ผลข้างเคียง และสูตรวัคซีน มากกว่ากลุ่มประชาชนทั่วไป

และตัวเลขที่น่าตกใจ พบว่ามีมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าที่ตัวเองไม่ฉีดวัคซีน เกิดจากความชะล่าใจ โดยคิดว่าไม่เกี่ยวกับตนเอง และคิดว่าไม่ติดโรค ทั้งที่จังหวัดที่อาศัยอยู่มีการระบาดถึง 51 เปอร์เซ็นต์ และมีคนที่รู้จักติดโควิดไปแล้วด้วย

ส่วน ช ที่ 3 คือ ช่องทางการฉีดวัคซีน ที่เข้าถึงยาก เป็นเรื่องที่ทาง กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการปรับปรุงในเชิงรุกมาโดยตลอด เพื่อให้ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งสร้างความเชื่อมั่น และเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้อง เช่น ให้เลือกฉีดวัคซีนได้ เพื่อให้มีตัวเลือกเป็นของตัวเอง จึงขอเชิญชวนทุกคนอย่าชะล่าใจ โดยครอบครัวควรสร้างแรงจูงใจแก่กันและกันในการฉีดวัคซีนตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่