posttoday

ส่งปปช.ฟันโครงการเสาไฟกินรีฯราชาเทวะชี้เข้าข่ายฮั้วประมูล

01 ธันวาคม 2564

ดีเอสไอส่งสำนวนคดีทุจริตโครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีฯ ราชาเทวะ ให้ป.ป.ช.ดำเนินการ ชี้เข้าข่ายฮั้วประมูล มูลค่า 8 โครงการ 975 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 64 พ.ต.ท วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีร้องเรียนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี พร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) ชนิดกิ่งเดี่ยว พร้อมติดตั้ง ขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และบริษัทคู่เทียบ ในความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542ว่า ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ที่ 54/2564 ซึ่งการสอบปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนั้นดีเอสไอจึงส่งสำนวนการสอบจำนวน 21 แฟ้มให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช) เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา

"อย่างไรก็ตาม เนื่องจากป.ป.ช. มีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนกล่าวหาผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ กระทำการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว จึงเข้าข่าย เป็นกรณีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกันและความผิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะต้องดำเนินการในคราวเดียวกันด้วย ตามมาตรา 30 วรรค 2 แห่งพ.ร.บ.รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งป.ป.ช.สามารถดำเนินการการเอง หรือจะมอบหมายกลับมาให้ดีเอสไอทำต่อก็ได้"รองโฆษกดีเอสไอ กล่าว

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับผลการสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้ากินรีฯของอบต.ราชาเทวะพบว่ามีทั้งหมดจำนวน 8 โครงการ โครงการแรกมีการติดตั้งจำนวน 1,811 ต้นมูลค่าความเสียหาย 172 ล้านบาท ,โครงการที่ 2 จำนวน 600 ต้น โครงการที่ 3 จำนวน 536 ต้น โครงการที่ 4 จำนวน 347 ต้น มูลค่าความเสียหมายรวม 225 ล้านบาท

ส่วน โครงการที่ 5 จำนวน 778 ต้น มูลค่าเสียหาย 74 ล้านบาท โครงการที่ 6 จำนวน 1,235 ต้น มูลค่าเสียหาย 117 ล้านบาท โครงการที่ 7 จำนวน 1,426 ต้น มูลค่าความเสียหาย 138 ล้านบาท และโครงการที่ 8 จำนวน 1,823 ต้น รวมมูลค่าความเสียหายในโครงการจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟปะติมากรรมกินรีฯทั้งหมดอยู่ที่ 975 ล้านบาท

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับการสอบสวนพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการ กระทำความผิดอาญาของบริษัทเอกชน ซึ่งพบว่ามีพฤติการณ์ในการตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อต้องการให้ประโยชน์ แก่ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิในการทำสัญญาของรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการ เอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ.ฮั้วประมูล ตามมาตรา 4