posttoday

ย้ำคนมหาดไทยยึดหลักพรหมวิหาร 4-ทศพิธราชธรรม

24 พฤศจิกายน 2564

ปลัดมหาดไทยย้ำให้ข้าราชการกรมการปกครองยึดหลักพรหมวิหาร 4 และทศพิธราชธรรมตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำงานให้ประชาชนมีความสุข

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ห้องประชุมกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้กับผู้บริหารและข้าราชการกรมการปกครอง โดยมี นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมตรวจเยี่ยม โอกาสนี้ นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมผู้บริหารส่วนกลาง ผู้ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และปลัดอำเภอ ทั่วประเทศ ร่วมประชุม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของฝ่ายปกครองมีภารกิจงานในความรับผิดชอบที่กว้างขวางมากกว่าหน่วยงานอื่น เพราะงานของฝ่ายปกครองเป็นงานครอบจักรวาล ทำหน้าที่เป็นผู้นำทั้งในเชิงหน้าที่ (Function) และเป็นผู้นำในพื้นที่ (Area) ตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจในการให้เป็นผู้นำในท้องที่ ในความรู้สึกของประชาชนนายอำเภอเป็นหัวหน้าใหญ่ในอำเภอ ปลัดอำเภอเป็นผู้นำ เป็นจุดแข็งที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ให้ดี และได้เน้นย้ำแนวทางการทำงานของฝ่ายปกครอง 7 ข้อ ได้แก่ 1.ต้องทำหน้าที่ผู้นำของทุกกระทรวง ทบวง กรม ในพื้นที่อำเภอ เป็นนายกรัฐมนตรีอำเภอ ยึดหลักพรหมวิหาร 4 และทศพิธราชธรรม ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ผู้ตาม คือ พี่น้องประชาชนมีความสุข และสิ่งดี ๆ

ย้ำคนมหาดไทยยึดหลักพรหมวิหาร 4-ทศพิธราชธรรม

2.ต้องสืบสาน รักษา ต่อยอด อุดมการณ์ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” หรือการ “ทำทุกข์ให้ลดลง สุขให้เพิ่มขึ้น” ที่เป็นแรงปรารถนาที่ชาวกรมการปกครองอยากทำให้ดีขึ้น ต้องทำนุบำรุงสิ่งเหล่านี้ให้งอกงาม อันจะนำพาซึ่งความสำเร็จทั้งในเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม ข้าราชการกรมการปกครองต้องมีทั้งความสามารถ (Ability) และความรู้ (Knowledge) และทัศนคติที่ดี (Attitude) เพื่อขับเคลื่อนงานไปสู่จุดมุ่งหมายได้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ 3.ขอให้น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งพระองค์ทรงมีความห่วงใยคนไทยทุกคน รวมถึงคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยใกล้ชิดกับคนไทย โดยให้ฝ่ายปกครองเร่งรณรงค์ โน้มน้าว และเชิญชวนคนที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนให้มาฉีดวัคซีน โดยในขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับแพลทฟอร์ม jitasa.care ซึ่งสามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลร่วมกับกรมควบคุมโรคและแพทย์จิตอาสา เป็นช่องทางที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเครือข่าย สามารถช่วยกันใช้ในการดำเนินการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนในพื้นที่ได้

4.ให้นายอำเภอในฐานะผู้บริหารสถานการณ์ในท้องที่ ประสานการปฏิบัติเกี่ยวกับแนวทางและเกณฑ์ในการผ่อนคลายหรืออนุญาตเปิดกิจการ/กิจกรรมในพื้นที่ตามแนวทางที่ ศบค. ได้ผ่อนคลาย ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ 5.ให้หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมการปกครองและทุกกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งทีมเฉพาะกิจพิจารณาข้อกฎหมาย หรือแนวทางปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามสถานการณ์ในปัจจุบันและส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน เพื่อสามารถขับเคลื่อนงานเอื้อต่อการอำนวยประโยชน์และบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน อย่างมีประสิทธิภาพ 6.ต้องส่งเสริมความสำคัญของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ให้มีบทบาทการทำงานในพื้นที่ตามที่มีระเบียบและกฎหมายกำหนด ซึ่งทุกตำแหน่งตามกลไกคณะกรรมการหมู่บ้านล้วนมีความหมายและความสำคัญ จะต้องเป็นเสาหลักในการบำรุงสุขในท้องที่ให้กับประชาชนคนไทย และ 7.การสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติ โดยข้าราชการส่วนกลางต้องสนับสนุนข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้ปฏิบัติในส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายอำเภอ และปลัดอำเภอที่ต้องรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากส่วนกลางเพื่อไปถ่ายทอดสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน

ย้ำคนมหาดไทยยึดหลักพรหมวิหาร 4-ทศพิธราชธรรม

ย้ำคนมหาดไทยยึดหลักพรหมวิหาร 4-ทศพิธราชธรรม