posttoday

โควิดระบาดชายแดนใต้แนวโน้มลดลง วอนกลุ่มเสียงเข้าฉีดวัคซีน

27 ตุลาคม 2564

ศบค.เผยสถานการณ์โควิดระบาดในพื้นที่4จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มค่อยๆลดลง วอนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีน ชี้ 90% ของกลุ่มผู้เสียชีวิต เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 64 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงข่าวตอนหนึ่ง ว่า ในที่ประชุมศปก.ศบค.มีการรายงานความก้าวหน้า สถานการณ์ติดเชื้อ โควิด-19 ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะนี้มีทิศทางแนวโน้มของผู้ติดเชื้อ เริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มค่อยๆ ลดลง ทางอีโอซี กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวทุกวัน

พญ.สุมนี กล่าวว่า ที่ประชุมมีการเร่งรัด สำคัญ2 เรื่อง คือ

1.เร่งรัดให้มีความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มประชาชนทั่วไป กลุ่มเสี่ยง 608 กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และแรงงานในพื้นที่ โดยมีการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจในเรื่องวัคซีนเป็นภาษาพื้นถิ่นผ่านช่องทางต่างๆ เช่น หอกระจายข่าว สถานีวิทยุ แผ่นพับ โดยได้รับความช่วยเหลือและประสานงานจากผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนา

2. ต้องมีการจำกัดวงไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เนื่องจากเมื่อวิเคราะห์สถานการณ์แล้วพบว่า เป็นการระบาดในระดับครอบครัว ชุมชนโดยเฉพาะตลาด สถานประกอบกิจการ เช่น ร้านอาหาร ร้านน้ำชา

พญ.สุมนี กล่าวว่า ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการหลักๆโดยได้รับบริการจากรถพระราชทานชีวะนิรภัย ได้รับบริการจากโมบายวัคซีนของทางเอกชน คือ เอสซีจี ในการใช้บริการของรถขนส่งวัคซีนที่เป็นรูปแบบห่วงโซ่ความเย็นที่เสถียร มีหน่วยงานสนับสนุนในการลงไปสอบสวนโรค (CCRT) จำนวน 382 ทีม โดยมีการตรวจคัดกรองไว แยกกัก รักษา ให้บริการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นการนำต้นแบบของการติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ผ่านมาและได้ใช้การจัดการโดยทีม CCRT ลงไปในพื้นที่

พญ.สุมนี กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีการทำแผนงานเชิงรุก ของแต่ละจังหวัดเองเพื่อขับเคลื่อนงานโดยผ่าน ศ.ป.ส. เช่น ในจังหวัดนราธิวาสมีการทำแคมเปญโดยผ่านผู้นำศาสนา ฝ่ายปกครอง คือกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และ ผู้ที่มีส่วนร่วม คืออาสาสมัครประจำหมู่บ้าน ซึ่งการทำแคมเปญดังกล่าวชื่อ เซฟนารา นาราเซฟ ส่วนจังหวัดสงขลาก็มีเช่นกัน โดยเน้นตรวจไว รักษาไว และถ้าไม่มีการติดเชื้อก็รีบเร่งรัดให้วัคซีนโดยไว

โควิดระบาดชายแดนใต้แนวโน้มลดลง วอนกลุ่มเสียงเข้าฉีดวัคซีน

พญ.สุมนี กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. มีความเป็นห่วงจากการที่มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นระยะ พบว่าผู้ที่เสียชีวิตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการรายงานของกรมควบคุมโรคมีรายละเอียด ของผู้เสียชีวิตที่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ซึ่งในจำนวนนี้ รวมถึงเด็กและหญิงตั้งครรภ์ และกว่า 90% ของกลุ่มผู้เสียชีวิต เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้นเป้าหมายหลักในการดำเนินการในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ คือการระดมเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวให้ได้มากที่สุด

พญ.สุมนี กล่าวว่า จากรายงานผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาจะเห็นว่า ผลรวมของกลุ่มเสี่ยงเป็น 100%และทั้งหมดที่เสียชีวิตคือไม่ได้รับวัคซีน โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ พบว่าเป็นผู้เสียชีวิตจากจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นระยะ นั่น หมายถึงการสูญเสียสองชีวิต เพราะกว่า 50% ของหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตนั้นทารกในครรภ์ก็จะเสียชีวิตเพราะมารดา และ อีก 50% ที่รอด เป็นการสูญเสียอย่างยิ่งของครอบครัว

จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนในท้องถิ่นขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์การระดมฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ หากมีบุคคลที่รู้จัก ญาติสนิท เพื่อนบ้าน หรือ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือหญิงตั้งครรภ์ช่วยแจ้งหรือสนับสนุนให้มารับบริการการฉีดวัคซีนให้มากขึ้น เพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต

พญ.สุมนี กล่าวว่า การใช้ แพลตฟอร์มไทยแลนด์พลัส หลังวันที่ 1 พฤศจิกายน ศบค. ได้ประกาศในข้อกำหนดฉบับที่ 35 เพื่อปรับระบบการลงทะเบียนของผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ จากระบบ COE ที่ใช้อยู่เดิม มาเป็นไทยแลนด์พลัส โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และได้ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ต่างๆ ไปยังทุกสถานทูตที่เกี่ยวข้องดังนั้นผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตามเงื่อนไขให้สอบถามรายละเอียดได้จากสถานทูตในประเทศนั้นๆได้

พญ.สุมนี กล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคมนี้จะมีการประชุมศบค. ชุดใหญ่ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. เป็นประธานการประชุม ขอให้ประชาชนติดตามรับชมการแถลงข่าวผลการประชุมของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้