posttoday

"แพทยสมาคมฯ" ค้านบุหรี่ไฟฟ้า จี้นายกฯปราม"ชัยวุฒิ"ออกหน้าหนุน ย้ำก่อโทษสารพัด

06 ตุลาคม 2564

แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ส่งจม.เปิดผนึกถึงนายกฯ ปราม รมว.ดิจิทัลฯ ออกหน้าสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า ย้ำบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เสพติดมากขึ้น ก่อนักสูบหน้าใหม่ เกิดโรคเรื้อรังสารพัด ยันหลายประเทศยังแบน

เมื่อวันที่ 6 ตค.64 ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี นายแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะแพทย์จากราชวิทยาลัย 14 แห่ง สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อปรามนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา และมีท่าทีสนับสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ขณะที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่างยืนยันนโยบายไม่นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร กล่าวว่า ข้อเท็จจริงของบุหรี่ไฟฟ้านั้น ยืนยันว่าไม่ใช่สินค้าปกติ แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่อุตสาหกรรมยาสูบผลิตขึ้นเพื่อเสริมการตลาดทดแทนบุหรี่มวน โดยมีผลวิจัยทั่วโลกพิสูจน์ว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพอย่างชัดเจน เช่น สหรัฐอเมริกาที่อนุญาตสูบแบบถูกกฎหมาย พบว่าเยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งไม่ใช่นักสูบหน้าเก่า แต่เป็นนักสูบหน้าใหม่จากการให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์มอมเมา ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่สูบควบกันทั้ง 2 อย่าง เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดที่เลิกได้ยากมาก มีผลให้เกิดการอักเสบและตีบตันของหลอดเลือดในระบบการไหลเวียนและหัวใจ รวมถึงการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ และต้องการการรักษาที่มีราคาแพง ทำลายสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนและผู้ใกล้ชิดที่จะได้รับไอสารพิษ ส่วนน้ำยามีการเติมกลิ่นจากสารสกัดดอกไม้และผลไม้ ทำให้มีกลิ่นหอมเพิ่มความนิยม เมื่อมีกระบวนการเผาไหม้จากขดลวดให้ความร้อน ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งหลายชนิด

“ขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่มีวิสัยทัศน์ปกป้องสุขภาพของประชาชน ไม่เปิดโอกาสให้มีการพิจารณาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งคณะแพทย์ บุคลากรสาธารณสุขและสุขภาพมีความภาคภูมิใจที่ ครม. ผ่านกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวงพาณิชย์ และประกาศต่างๆ มาบังคับใช้ เพื่อปกป้องให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเป็นไปตามที่ประเทศไทยได้มีการลงนามในความร่วมมือกับอีก 181 ประเทศ ในข้อตกลงความร่วมมือ FTCT ขององค์การอนามัยโลกที่จะร่วมมือกันลดจำนวนคนสูบบุหรี่” นายแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ กล่าว

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยให้ข้อมูลว่าบุหรี่ไฟฟ้าใช้ทดแทนและทำให้เลิกบุหรี่มวนได้ แต่ไม่ได้บอกให้ครบว่า เมื่อเปลี่ยนมาติดบุหรี่ไฟฟ้าแล้วจะเลิกบุหรี่ฟ้าได้อย่างไร โดยเฉพาะสารนิโคตินในน้ำยาที่ใช้สูบมีความเข้มข้นแตกต่างกันและยากต่อการควบคุม ยิ่งเข้มข้นมาก การติดยายิ่งรุนแรง และโรคที่เกิดจากสารนิโคตินก็จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า ยังทำการทางการตลาดเพื่อขยายผลการจำหน่ายในหลายรูปแบบ เช่น โฆษณาสินค้าด้วยการสร้างรูปแบบอุปกรณ์ ทั้งรูปร่าง สีสัน และ กลิ่น ให้เป็นที่ดึงดูด เป็นแฟชั่น โฆษณาในสื่อออนไลน์ที่เย้ายวนให้มีการใช้ในเยาวชน ดังนั้น ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามิใช่ผู้ที่สูบบุหรี่มวนอยู่เดิมและต้องการเลิกสูบเท่านั้น แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่จะได้รับอิทธิพลจากการตลาดการโฆษณา ทำให้กลายเป็นผู้ติดยาเสพติด ติดนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะเยาวชนที่มักได้รับการยั่วยุได้ง่าย บุหรี่ไฟฟ้าจึงไม่เพียงแต่สร้างผลเสียต่อประเทศชาติในทางเศรษฐกิจ คือ ประชาชนต้องหาซื้อ เจ็บป่วยขาดความสามารถในการทำงาน ยังสร้างผลร้ายต่อการรักษาสุขภาพ และรัฐต้องมีค่ารักษาพยาบาลด้วย

ศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร ประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศ กล่าวว่า กรณีที่อ้างว่ามี 67 ประเทศอนุญาตให้มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ขอให้ทบทวนคำอนุญาตของประเทศเหล่านั้นว่า แต่ละประเทศล้วนมีข้อแม้และข้อบ่งชี้ในการใช้ทั้งสิ้น มิใช่ขายได้อย่างอิสระ และยังมีประเทศอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่อนุญาต (Ban) การจำหน่ายด้วยเหตุผลว่า ต้องการปกป้องสุขภาพประชาชนด้วยกระบวนการ "ป้องกัน ดีกว่าแก้" ดังนั้น แพทยสมาคมฯ และองค์กรร่วมจึงขอคัดค้านอย่างเต็มที่ในการที่จะมีการพิจารณาให้มีการยกเลิกประกาศของกระทรวงพาณิชย์ในการห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และขอเชิญชวนให้มีการต่อต้านการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เป็นกำลังในการช่วยกันพัฒนาประเทศชาติต่อไป

"การเลิกสูบบุหรี่ไม่จำเป็นต้องอาศัยบุหรี่ไฟฟ้า หากต้องการเลิกสูบ เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่และเครือข่ายต่างๆ มีวิธีการและกำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่อย่างเต็มกำลัง ทั้งให้คำปรึกษาและการจัดหายาเลิกบุหรี่ สามารถปรึกษาได้ที่สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 โทรฟรีทุกเครือข่าย คลินิกฟ้าใส 544 แห่งทั่วประเทศ และหน่วยบริการทางการแพทย์ทุกแห่ง และที่ต้องรีบทำก่อนคือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และให้ความกระจ่างแก่ประชาชนว่า สิ่งที่ร่างกายต้องการจากลมหายใจเข้าปอดคืออากาศบริสุทธิ์เท่านั้น" ประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศ กล่าว