posttoday

ศบค.ยันวัคซีนปี64ตามเป้า178ล้านโดส เห็นชอบซื้อแอสตราฯ-ไฟเซอร์จากยุโรป

27 กันยายน 2564

ศบค.ย้ำ แผนจัดหาวัคซีนปี 64 ยังตามเป้า 178 ล้านโดส เห็นชอบซื้อแอสตราเซนเนกา-ไฟเซอร์ราคาถูกจากยุโรป ตั้งเป้าระดมฉีดเดือนต.ค.ครอบคลุมประชากรร้อยละ 50 ทุกจังหวัด

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า แผนการให้บริการและการบริหารจัดการวัคซีน โดยในที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค แนะนำว่าการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม แบบสูตรไขว้ อาจใช้หลักการเดียวกับวัคซีนซิโนแวค เนื่องจากต้องรอข้อมูลจากผลวิจัยเพิ่มเติม โดยใช้สูตรดังนี้

ซิโนฟาร์ม -ไฟเซอร์ ระยะห่าระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์

ซิโนฟาร์ม - แอสตราเซนเนกา ระยะห่าระหว่างเข็ม3-4 สัปดาห์

ซิโนฟาร์ม - ซิโนฟาร์ม และกระตุ้นด้วยแอสตราเซนเนกา ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป

หลังเข็ม 2 ซิโนฟาร์ม -ซิโนฟาร์ม กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป

ดังนั้นการฉีดซิโนฟาร์มแบบสูตรไขว้ จึงยังไม่กำหนดเป็นสูตรหลักของประเทศ การใช้สูตรนี้จึงเป็นไปตามเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนอนุญาตการใช้วัคซีนโดย อย. และตามความสมัครใจของผู้รับวัคซีน และดุลยพินิจของผู้ให้บริการ

ที่ประชุม ศบค. ยังพูดถึงแผนการจัดหาวัคซีน ที่ภายในปี 2564 จะมีการจัดหาได้ 178.2 ล้านโดส โดยในเดือนกันยายนรับเข้ามาแล้วทั้งซิโนแวค แอสตราเซนเนกา และไฟเซอร์ ทั้งหมด 16.3 ล้านโดสและเตรียมรับของซิโนฟาร์มอีก 10 ล้านโดส

เดือนตุลาคมจะเข้ามาอีกทั้งหมด 24 ล้านโดส และซิโนฟาร์มอีก 6 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน เข้ามาอีก 23 ล้านโดส และซิโนฟาร์มอีก 6 ล้านโดส และเดือนธันวาคมเข้ามาอีก 24 ล้านโดส ซิโนฟาร์มอีก 12.5 ล้านโดส และโมเดอร์นา อีก 2 ล้านโดส

รวมวัคซีนที่จะเข้ามาตั้งแต่เดือนกันยายนถึงธันวาคม ทั้งหมด 50 ล้านโดส และเมื่อรวมกับที่เข้ามาก่อนหน้านี้ 126.2 ล้านโดส ก็จะเป็น 178.2 ล้านโดส ตามแผนที่วางไว้

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอว่า ประเทศในสหภาพยุโรปพร้อมขายต่อวัคซีนให้ในราคาที่ต่ำกว่าตลาด คือประเทศสเปน ขายแอสตราเซนเนกา 165,000 โดส ในราคาโดสละ 2.9 ยูโร และไฟเซอร์ 2,788,110 ล้านโดส ราคาโดสละ 15.5 ยูโร ประเทศฮังการีขายแอสตราเซนเนกา 4 แสนโดส ราคาโดสละ 1.78 ยูโร โดยมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ร่วมด้วยคือ ค่าบรรจุภัณฑ์ และที่ควบคุมอุณหภูมิ ค่าขนส่ง ค่าภาศีศุลกากรขาออก- ขาเข้า ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าประกันความเสียหาย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายและแผนการจัดสรรวัคซีนในปี 64 โดยในเดือนตุลาคม ตั้งเป้าฉีดให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมด รวมชาวต่างประเทศในประเทศไทย อย่างน้อยร้อยละ50 ทุกจังหวัด และอย่างน้อย 1 อำเภอ ครอบคลุมร้อยละ70 เดือนพฤศจิกายน ครอบคลุมผู้ได้รับเข็ม 1 อย่างน้อยละ 70 รวมถึงกลุ่มอายุ 12-17 ปี และเดือนธันวาคม ครอบคลุมผู้ได้รับเข็ม 1 และเข็ม 2 อย่างน้อยร้อยละ 80 และ 70 ตามลำดับ