posttoday

บช.น.แจงข่าวปลอมอ้างคฝ.ถีบวัยรุ่นตกทะลุหลังคา

12 กันยายน 2564

โฆษกบช.น.แจงข้อมูลอ้างคฝ.ถีบวัยรุ่นตกทะลุหลังคาเป็นข่าวปลอม ลุยดำเนินคดีคนเผยแพร่ ยืนยันคฝ.เข้าปฏิบัติการในแฟลตดินแดงเฉพาะชั้นล่าง ชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้หลายราย

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) และโฆษก บช.น. ได้ชี้แจง กรณีที่มีการแชร์ภาพและข้อมูลอ้างว่าเจ้าหน้าที่จับกุมผู้พักในแฟลตดินแดงที่ไม่เกี่ยวข้องในการชุมนุมและถีบวัยรุ่นตกทะลุหลังคา

โฆษก บช.น.กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข่าวปลอม บช.น.จะได้ประสานกับ บช.สอท.ดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข่าวแล้ว ยืนยันว่าการปฏิบัติการที่แฟลตดินแดงเจ้าหน้าที่เข้าไปเฉพาะชั้นล่าง ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนแฟลตดินแดงที่ให้ความร่วมมือและให้ข่าวสารกับเจ้าหน้าที่ มีการปิดประตูบ้านเรือน ปิด อาคารไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้าไปใช้พื้นที่หลบซ่อนตัวและก่อเหตุ รวมทั้งผลักดันผู้ก่อเหตุให้ออกมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้จำนวนมาก

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 5 คน สาหัส 1 คน ถูกระเบิดขว้างเข้าที่ใบหน้าซีกขวาอยู่ในห้องไอซียูของ รพ.ตำรวจ แพทย์ทำการรักษาพบว่ากระดูกใบหน้าได้รับอันตรายและที่ดวงตาข้างขวาได้รับอันตราย

ส่วนผู้ชุมนุมจะยกระดับความรุนแรงนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เน้นความปลอดภัยตำรวจ พี่น้องประชาชน ผู้ถูกจับกุมต้องได้รับความปลอดภัย ก่อผลกระทบให้น้อยที่สุด ส่วนจะเข้าพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องแฟลตดินแดงหรือไม่นั้น ตำรวจได้พูดคุยมาโดยตลอดประกาศแจ้งเตือนต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อยากให้ปัญหานี้จบลง การก่อเหตุดังกล่าวมีแต่การสร้างปัญหา โดยหน้าที่ของตำรวจจะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปโดยเร็วที่สุดตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ ทั้งนี้ได้มีการปรับมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทุกฝ่าย โดยปฏิบัติการให้อยู่ในวงจำกัด

สำหรับกรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯในวันนี้ จะมีการรวมตัวกันก่อความวุ่นวาย คือ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ นัดหมายเวลา 17.30 - 20.30 น. ได้ประกาศยกระดับการปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดง และกลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบเวลานัดหมาย ที่แยกดินแดงเช่นกัน ทาง บช.น.ขอเตือนว่า กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง