เผยเหยื่อโควิดดับ 262 ราย พบเป็นคนแก่-โรคเรื้อรังมากถึง 253 ราย หญิงท้อง 1

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

-ผู้ป่วยรายใหม่ 14,956 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,361 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 2,222 ราย จากเรือนจำ356ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย

-ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 262 ราย / ยอดสะสม 12,103 ราย

-ผู้เสียชีวิตทั้ง 262 ราย เป็นชาย 140 ราย หญิง 122 ราย อายุระหว่าง 25-103 ปี เป็นชาวไทย 250 ราย เมียนมา 9 ราย อเมริกัน 2 ราย นอร์เวย์ 1 ราย โดย อายุ 60 ปี ขึ้นไป 183 ราย อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 52 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 26 ราย ตั้งครรภ์ 1 ราย (นราธิวาส ) โดยกทม. เสียชีวิตสูงสุด 80 ราย

-ปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน HPL โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง เสียชีวิตที่บ้าน/ขณะนำส่ง 1ราย (ศรีสะเกษ) ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ติดเชื้อในพื้นที่ 253 ราย คนรู้จัก 122 ราย ครอบครัว 18 ราย อาศัยในพื้นที่ระบาด109ราย อาชีพเสี่ยง 4 ราย

-ยอดผู้ป่วยสะสม 1,234,487 ราย

-ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น17,936ราย ยอดสะสม 1,058,704 ราย

-เหลือผู้ป่วยรักษาอยู่ 163,680 ราย

-ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 4,841 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,030 ราย

-ยอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 จนถึง 1กย. 64 พบว่า มียอดฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 33,427,463 โดส แยกเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 24,147,532 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 8,684,695 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 595,236 ราย

-จํานวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันนี้ 10 จังหวัดอันดับแรก 1.กรุงเทพมหานคร 3,322 ราย 2.สมุทรปราการ1,220 ราย 3.ชลบุรี 881 ราย 4.สมุทรสาคร 733 ราย 5.พระนครศรีอยุธยา 494 ราย 6.นราธิวาส 428 ราย 7.ราชบุรี 349 ราย 8.นครปฐม 341 ราย 9.ระยอง 340 ราย และ 10.สระบุรี 310 ราย

-ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 219,265,651 ราย เสียชีวิต 5,545,159 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 40,330,712ราย อันดับ 2 อินเดีย 32,856,863 ราย อันดับ 3 บราซิล 20,804,215 ราย อันดับ 4 รัสเซีย 6,937,333 ราย และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร 6,825,074 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 29