"สุวิทย์"เสนอแจกเงินคนขาดรายได้อีก9พันในช่วง3เดือน

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กเสนอแนวทางแก้ปัญหาโควิดฝากไปถึงรัฐบาลว่า #อย่าทำร้ายผู้ประกอบการซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะที่ผ่านมามาตรการล็อกดาวน์ ที่ประกาศใช้มาเดือนกว่าก็ไม่ได้มีการบังคับใช้จริงจังเพียงแต่ขอความร่วมมือ ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อ #โควิด19 ยังสูงระดับ 20,000 ราย ไม่รวมจำนวนผู้ติดเชื้อ/ATK จากการตรวจเชื้อเพียงวันละ 50,000 ราย

แทนที่จะรีบกระชับมาตรการเพื่อตัดวงจรการระบาด กลับประกาศผ่อนปรน ทั้งที่จำนวนผู้ติดเชื้อ #โควิด19วันนี้ ยังไม่ได้ดีขึ้นเลย ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้กลับจะยิ่งแย่ลงไปอีก

มาตรการที่เข้มงวดยังไม่สามารถลดและควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ แล้วมาตรการผ่อนปรนจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้อย่างไร

สุดท้ายอาจบานปลาย #มีคนป่วยคนตายมากขึ้น ต้องกลับมา #ล็อกดาวน์ อีก ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ต้องกลับมาเริ่มเปิดร้านใหม่ลงทุนแล้วเจ๊ง ยังไม่ได้ทุนคืน ต้องมาลงทุนอีก #ทำไมไม่ควบคุมอย่างจริงจัง เอาให้จบในรอบเดียว #เจ็บแต่จบ จะต้องใช้เวลาอีกก็ต้องทำ แต่ต้องมีมาตรการดูแลช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการไปพร้อมๆกัน มีมาตรการที่กำหนดวิธีการและไทม์ไลน์ให้ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน

#ขอเสนอให้รัฐบาลต้องช่วยลดภาระให้ประชาชนและผู้ประกอบการอย่างน้อยในช่วงล็อกดาวน์ 2-3 เดือน โดยการให้บริษัทรัฐวิสาหกิจ ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ลงมาเท่าทุน 3 เดือนนี้ไม่ต้องเอากำไรหรือเอากำไรกลับมาช่วยประชาชน

#ขอให้สถาบันกานเงิน ธนาคารทั้งของรัฐและเอกชน #งดคิดและเก็บดอกเบี้ยในช่วงของการล็อกดาวน์ อย่างน้อย 3 เดือน ไม่ใช้การพักชำระหนี้ แต่เพื่อลดภาระทั้งการชำระต้นและดอกเบี้ย ซึ่งมาตรการนี้อาจส่งผลกระทบต่อกำไรที่อาจลดลงบ้างของสถาบันการเงินและธนาคาร เป็นการคืนกำไรช่วยประเทศชาติ

#รัฐบาลต้องให้การช่วยเหลือประชาชนทีขาดรายได้ โดยใช้เงินกู้ที่เหลืออยู่และจะกู้มาใหม่ทุกคน คนละ 9,000 บาท ในช่วง 3 เดือน ที่ต้องล็อกดาวน์ โดยจ่ายเป็นเงินสด ให้ถึงมือประชาชนพร้อมกันโดยเร็วที่สุด ประมาณเงินที่ใส่ลงไปจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นและทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนตั้งแต่ฐานรากและได้หลายรอบกว่าการโอนเข้าบัตรไม่เกิดการหมุนเวียนแบบกระจายอย่างทั่วถึงและจำกัดเฉพาะกลุ่มธุรกิจใหญ่ ประชาชนทั่วไปและฐานรากไม่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเองในตลาดสด ในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ได้ การจ่ายเงินช่วยเหลือนี้ให้ #ยกเว้นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจและเจ้าหน้าที่พนักงานลูกจ้างองค์กรของรัฐอื่นๆ ที่ได้รับเงินเดือนและค่าจ้าง ค่าตอบแทนประจำอยู่แล้ว ไม่ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือให้อีก

#ส่วนผู้ที่ได้รับสิทธิ์ประกันสังคม ซึ่งควรต้องได้รับการช่วยเหลือเท่ากันกับประชาชนทั่วไป #แทนที่จะเอาเงินกู้ไปใช้จ่ายในสิ่งที่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์โดยตรง หากมีการช่วยเหลือตามที่เสนอ เชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือในการบังคับ #ล็อกดาวน์ แบบเข้มงวดและอยู่กับบ้านไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น จะช่วยตัดวงจรการระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อ

#โควิด19 ลงได้ ช่วยลดภาระ #แพทย์ #พยาบาล #โรงพยาบาล เมื่อควบคุมได้ก็จะสามารถเปิดประเทศและธุรกิจ การท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอสหารและบริการได้ แบบไม่ต้องกังวล จะได้ฉลองปีใหม่ได้แต่ยังต้องคง #มาตรการป้องกัน เงื่อนไขในการใช้บริการตามสถานประกอบการ การเดินทาง ขนส่ง ฯลฯ ประชาชนทุกคน ยังคงต้อง #ใส่หน้ากาก #รักษาระยะห่าง #ล้างมือ อย่างเข้มงวดต่อไปจะไปไปหวังพึ่งวัคซีนและภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ เพราะยังมีความไม่แน่นอนและเราไม่สามารถควบคุมได้ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องเตรียมมาตรการป้องกันการระบาดในระลอกต่อไปด้วย