HEC ขอขยายเวลาบังคับใช้ กม.คุมสถานดูแลสุขภาพฯ รับผลกระทบโควิดระบาด
HEC ขอขยายผลบังคับใช้ พ.ร.บ.สถานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง 1ปีหรือจนกว่าโควิดจะคุมได้ เหตุได้รับผลกระทบจากการระบาดไม่สามารถปรับปรุงสถานประกอบการได้ตามกม.กำหนด
นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (HEC) ออกจดหมายขอขยายการมีผลบังคับใช้พระราชบัญญติสถานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง ส่งถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีใจความสำคัญระบุว่า ด้วยสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (HEC) ซึ่งเป็นสมาพันธ์ฯ ที่รวบรวมผู้ประกอบการธุรกิจตาม พ.ร.บ.สถานบริการสุขภาพ พ.ศ.2559 ประกอบด้วย ธุรกิจนวด สปา และกลุ่มดูแลผู้สูงอายุ ได้ทำการสำรวจเรื่องการลงทะเบียนและปัญหาของการยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ปัจจุบันพบว่าสมาชิกกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการเตรียมตัวและระยะเวลาในการปรับปรุงสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานตามพระราชบัญญัติ
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ซึ่งส่งผลให้ประสบปัญหาหลายด้าน จึงทำให้ไม่สามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขสถานที่ให้ได้ตามมาตรฐาน ตามกฎกระทรวงกำหนด ดังนี้
1.ปัญหาด้านการเงิน ในช่วงการระบาดของโรคโควิด ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาภาวะขาดทุน และเกิดปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน
2.ปัญหาการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการ (Care Manager)
3.ปัญหาการปรับปรุงสถานที่ ช่วงการแพร่ระบาดของโควิดทางสถานประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุต้องงดการเข้าพื้นที่ของบุคคลภายนอกโดยเด็ดขาด
สมาพันธ์ฯ จึงนำเรียนปัญหามายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อขอความอนุเคราะห์เลื่อนกำหนดเวลาการออกตรวจมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการออกไปก่อนเป็นเวลา 1 ปี หรือจนกว่าจะมีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ หลังจากนั้น ผู้ประกอบการจะรีบดำเนินการปรับปรุงสถานประกอบการและจัดเตรียมความพร้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานของกฎกระทรวงต่อไป
