ประกาศ10มาตรการคุมโควิดระบาดในกทม.-ปริมณฑล จังหวัดชายแดนใต้
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งศบค. ใช้ 10 มาตรการคุมโควิดระบาดในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนใต้ ปิดแคมป์ก่อสร้าง ร้านอาหารให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น คัดกรองผู้เดินทางเข้า-ออกพื้นที่เข้มงวด งดการจัดเลี้ยง งานรื่นเริง
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 64 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ คำสั่งและข้อกำหนด ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) จำนวน 2 ฉบับ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ดังนี้
1.คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด - ๑๙) ที่ ๖/๒๕๖๔ เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
สาระสำคัญคือ กำหนดให้ 10 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ดังนี้
1. กรุงเทพมหานคร 2. จังหวัดนครปฐม 3. จังหวัดนนทบุรี 4. จังหวัดนราธิวาส 5. จังหวัดปทุมธานี 6. จังหวัดปัตตานี 7. จังหวัดยะลา 8. จังหวัดสงขลา 9. จังหวัดสมุทรปราการ 10. จังหวัดสมุทรสาคร
สาระสำคัญคือกำหนดมาตรการ 10 ข้อเพื่อชะลอและสกัดกั้นการระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเร่งด่วน และหยุดยั้งอัตราการเร่งของจำนวนผู้ป่วยดังนี้
1.ให้ใช้มาตรการรเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล (จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา) โดยให้ดำเนินการต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน
2.ให้ปิดสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร หรือพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างหรือสถานที่ก่อสร้าง และให้มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานทั้งภายในและภายนอกสถานที่ก่อสร้าง รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง และห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นการชั่วคราวอย่างน้อยสามสิบวัน
3.ให้ตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ประกอบการหรือผู้รับผิดชอบในสถานประกอบการ และโรงงาน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ตามที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขเพื่อกำกับหรือจำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทางเข้าออกเขตพื้นที่สถานประกอบการหรือโรงงาน
4.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ให้จำหน่ายอาหารเฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น / ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึง 21.00 น. ปิดโรงภาพยนตร์ สวนน้ำ พื้นที่นั่งรับประทานในศูนย์อาหาร / โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ให้งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนา และจัดเลี้ยง / ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน
5.ให้เจ้าหน้าที่ตรวจเขตชุมชน ตลาด สถานที่มีความเสี่ยงจ่อการระบาดของโรค เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อ และจัดให้ผู้มีความเสี่ยงหรือติดเชื้อ เข้ารับการแยกกัก กักกัน / เมื่อพบแหล่งที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถสั่งปิดพื้นที่ชั่วคราว หรือ กำหนดเงื่อนไขการเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้
6.ให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดสถานที่หรือจำกัดการเดินทางจากการระบาดแบบกลุ่มก้อนในเขตชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ หรือบุคคลที่ได้รับความช่วยเหลือตามความเหมาะสม
7.กำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมและตรวจคัดกรองการเดินทาง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันดังนี้
-ตั้งจุดตรวจคัดกรองการเดินทาง เส้นทางเข้าออกจังหวัดชายแดนใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) ผู้ที่จะเดินทางออกนอกจังหวัด ต้องแสดงบัตรประชาชน ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือฝ่ายปกครองในพื้นที่
-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง เส้นทางเข้าออก กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานเพื่อทำงานข้ามเขตจังหวัดอย่างเข้มงวด โดยให้ผ่านเข้าออกเฉพาะแรงงานที่ได้รับอนุญาตเดินทางจากผู้ว่าราชการจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทาง / การเดินทางข้ามเขตจังหวัดของประชาชนทั่วไป ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็น
-เส้นทางคมนาคมเข้าออกจังหวัดอื่นๆ ให้ตั้งจุดตรวจคัดกรองการเดินทางอย่างเข้มงวด ในกรณีพบผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันโรคโดยการคุมไว้สังเกต แยกกัก หรือ กักกันในพื้นที่พำนักหรือสถานที่ที่ทางราชการกำหนด
8.ให้ฝ่ายความมั่นคงเข้มงวดตรวจตราและปราบปรามการลักลอบหรือรวมกลุ่มมั่วสุมกระทำการที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบเล่นการพนัน การเสพยาเสพติด การรวมกลุ่มในลักษณะที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถในทาง หรือการฝ่าฝืนเปิดดำเนินการของสถานบริการในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดห้ามการเปิดไว้
9. มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ให้คงพิจารณาดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดในช่วงระยะเวลานี้เพื่อลดการเดินทางและการติดต่อสัมผัสระหว่างบุคคล โดยเฉพาะหน่วยงานหรือสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
10.ให้ประชาชนงดจัดกิจกรรมทางสังคมที่มีการรวมกลุ่ม ในลักษณะการสังสรรค์ จัดเลี้ยง หรืองานรื่นเริง ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อลดการติดต่อสัมผัสกันระหว่างบุคคลอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 30 วัน เว้นแต่เป็นการจัดพิธีการตามประเพณีนิยมตามที่ได้กำหนดเตรียมการไว้แล้ว
